วันพุธที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2559

มีขึ้นก็ต้องมีลง ช่องดังบน YouTube มียอดรับชมลดฮวบในช่วงครึ่งปีหลังนี้

มีขึ้นก็ต้องมีลง ช่องดังบน YouTube มียอดรับชมลดฮวบในช่วงครึ่งปีหลังนี้SocialBlade เว็บไซต์สำรวจสถิติบนโซเชียลเผยว่า 49 ช่องดังบน YouTube มียอดรับชมต่อวัน 4.1 ล้านวิวในเดือนมกราคม 2016 แต่พอมาเดือนพฤศจิกายน ยอดรับชมต่อวันหายไปกว่าครึ่ง โดยหายไปกว่า 3.7 ล้านวิว จุดเริ่มต้นความเปลี่ยนแปลงเริ่มตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นมา ในบรรดา 49 ช่องดังนั้นมีช่องจากสื่อหลักที่ทำทีวี ช่องของบุคคล เช่น PewDiePie
อย่างไรก็ตามมีข้อถกเถียงว่าที่ยอดรับชมลดลงเป็นเพราะพฤติกรรมคนเปลี่ยนหรืออัลกอริทึมของ YouTube ที่เปลี่ยน มีข้อสงสัยอีกด้วยว่า YouTube กวาดล้างยอดรับชมออกเป็นครั้งคราวโดยบ็อท โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจู่ๆยอดรับชมก็หายไปจากแพลตฟอร์ม แต่ YouTube ให้เหตุผลว่าเป็นความผิดพลาด ไม่ได้ตั้งใจลบออก
ก่อนหน้านี้ PewDiePie ปิดช่องที่สองของตัวเองไปแล้ว ไม่แน่ใจว่าทำเพื่อหยั่งเสียงแฟนๆ หรือประท้วง YouTube แต่ PewDiePie เองก็เคยมีประวัติทำพฤติกรรมแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง
ที่มา>>>Sanook

แจ้งเตือนเส้นทางหลัก พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ ซ่อมแซมผิวถนนตลอดเส้นทาง

แขวงทางหลวงพิษณุโลก เขตที่ 2 (วังทอง) เตือนผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก ที่มีการซ่อมแซมผิวถนนตลอดเส้นทาง ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย ขณะความคืบหน้าของการปรับปรุงซ่อมแซมผิวถนนแล้วเสร็จ 80%แล้ว และจะสามารถคืนผิวถนนจราจร ได้ตามปกติก่อนสิ้นเดือนมกราคม 2560
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 59 นายสุพจน์ ศิริลักษณ์ รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงพิษณุโลก เขตที่ 2 (วังทอง) เปิดเผยว่า ขณะนี้การก่อสร้างปรับปรุงถนนเส้นทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก –หล่มสัก ที่แขวงทางหลวงพิษณุโลก เขต 2 รับผิดชอบตั้งแต่ช่วงสี่แยกอินโดจีน ถึงเขตติดต่อ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ รวมระยะทางกว่า 90 กิโลเมตร ขณะนี้กำลังมีการปรับปรุงเส้นทาง เป็นระยะๆ เพื่อให้ได้มาตรฐานที่กำหนด ทำให้การจราจรในช่วงนี้อาจไม่สะดวก โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ จะมีประชาชนใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทั้งการเดินทางกลับภูมิลำเนาและการเดินทางไปท่องเที่ยวตามถนนสายหมายเลข 12 ที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย โดยขณะนี้การปรับปรุงผิวการจราจรได้กว่า 80 % แล้ว และคาดว่าก่อนสิ้นเดือนมกราคม 2560 ก็จะสามารถคืนผิวจราจร ให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ตามเดิม โดยในช่วงที่มีการก่อสร้างผิวการจราจรนั้นทางผู้รับเหมาก็จะมีการติดตั้งป้ายเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนตลอดระยะเส้นทาง
นายสุพจน์ ศิริลักษณ์ รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงพิษณุโลก เขตที่ 2 (วังทอง) กล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่าจะมีการปรับปรุงผิวการจราจร แต่ผู้ใช้รถใช้ถนนก็สามารถวิ่งทำความเร็วได้ตามปกติ หรือตามกฎหมายที่กำหนดไว้ แต่ใช้ในช่วงปีใหม่นั้นควรจะระมัดระวังเป็นพิเศษคือช่วง กม.ที่ 60-70 หรือบริเวณก่อนถึงแยกบ้านแยง ซึ่งบริเวณดังกล่าว มักเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ ซึ่งทางแขวงทางหลวงพิษณุโลก เขตที่ 2 ก็จะมีการนำป้ายขนาดใหญ่ไปติดตั้งไว้ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้สังเกตเห็นได้ชัดเจนและลดความเร็วลง เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ อย่างไรก็ตามก็ขอให้ขับขี่รถตามกฎหมายที่กำหนด เพื่อความปลอดภัยและความสูญเสียในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้อีกด้วย
ที่มา>>>ข่าวสด

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ผงะ! พนง.เขตนั่งถอนหญ้า เจอศพทารกคลุกดินยัดถุงทิ้งสวนหย่อมแยกยานนาวา

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. ร.ต.อ.ศรายุทธ์ สันทัด รอง สว.(สอบสวน) สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุพบศพเด็กทารก ถูกทิ้งไว้บริเวณสวนหย่อมริมถนนยานนาวา ติดกับสามแยกถนนยานนาวาตัดสาธุประดิษฐ์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยพ.ต.อ.สมโภช สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางโพงพาง พ.ต.ท.ดุสิต วาลีประโคน รองผกก.สส. พ.ต.ต.ไอยรา อากาศวิภาต สว.สส. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางโพงพาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) แพทย์นิติเวช จากรพ.จุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบถุงขยะสีดำ ภายในมีกล่องเครื่องมือพลาสติกสีขาว เมื่อเปิดออกพบศพทารกเพศชาย มีอวัยวะครบ ยังมีสายสะดือกับรกติดอยู่ ถูกปิดทับด้วยผ้าขนหนูสีขาวกับสีฟ้า และเศษดินอีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นแพทย์ระบุว่า อายุครรภ์ประมาณ 5-6 เดือน
จากการสอบสวน นางกัญญารัตน์ วงค์ราชบุตร อายุ 56 ปี พนักงานฝ่ายรักษาความสะอาด สำนักงานเขตยานนาวา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเพิ่งถอนหญ้าบริเวณสวนหย่อมเสร็จ กำลังจะเดินไปนั่งพัก เหลือไปเห็นถุงดำวางอยู่ตรงม้าหิน จึงเดินไปแกะดูก็พบว่ามีกล่องพลาสติกอยู่ภายในถุง เมื่อเปิดฝากล่องออกดูก็พบผ้าสีขาวปิดอยู่ชั้นแรก ต่อด้วยเศษดินกับศพทารก ด้วยความตกใจจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจทันที
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเกิดจากวัยรุ่นที่ทำแท้ง เพราะตั้งท้องโดยที่ยังไม่พร้อม ก่อนนำศพใส่กล่องพลาสติกห่อถุงดำมาทิ้งไว้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดละแวกจุดเกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียงอีกครั้ง เพื่อติดตามตัวผู้ที่นำศพทารกมาทิ้งมาดำเนินคดีต่อไป
ที่มา>>>ข่าวสด

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ครูสาวใช้ไม้พลองตี ดช.7 ขวบ 99 ที จนก้น-หลังช้ำ แค่ขอไปเข้าห้องน้ำ พ่อแม่โวยเอาเรื่อง

วันที่ 25 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองว่าลูกชายวัย 7 ขวบ ถูกครูตีที่ก้นและหลังได้รับบาดเจ็บ ผู้สื่อข่าวจึงไปตวรจสอบพบพ่อและแม่ของ ด.ช.วัย 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 ของโรงแรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พร้อมกับโชว์บาดแผลรอยฟกช้ำที่หลังและก้นเป็นจำนวนมาก
จากการสอบถาม ด.ช.วัย 7 ขวบ ได้เล่าให้ฟังว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อสามวันที่แล้ว ซึ่งตนอยู่ระหว่างสอบวิชาคณิตศาสตร์ ระหว่างนั้นก็ขอครูคุมสอบซึ่งเป็นผู้หญิงไปเข้าห้องน้ำ แต่ครูไม่ให้ไปและได้ทำโทษตนด้วยการใช้ไม้พลองลูกเสือตีที่ก้นและหลังขอตนจำนวน 99 ครั้ง ซึ่งตนรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก พอช่วงเย็นพ่อได้มารับที่โรงเรียน จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อฟัง
ขณะที่แม่ของเด็กชาย บอกว่า หลังทราบว่าลูกถูกครูตี ก็นึกว่าถูกตีแค่ 1 หรือ 2 ที เท่านั้นแต่เมื่อเห็นแผลลูกชายตนถึงกับจะเป็นลมเพราะไม่อยากจะเชื่อว่าครูจะทำกับลูกชายได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งครูคนดังกล่าวพึ่งจะได้บรรจุเพียง 2 สัปดาห์ และอ้างว่าเด็กทำผิดที่ออกจากห้องเรียนก่อนเวลา และตนได้ไปแจ้งความกับร.ต.อ.ณัฐพล อุดน้อย รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.คลองหลวง เพื่อเอาผิดกับครูคนดังกล่าวแล้ว พร้อมกับนำตัวลูกชายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อไว้เป็นหลักฐาน และอยากให้ครูที่ตีลูกของตนออกมาแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ครูคนนั้นได้กระทำลงไป
ที่มา>>>ข่าวสด

วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2559

แฮกเกอร์ อ้างเจาะข้อมูลกองทัพภาค 2 โชว์งบประมาณว่อนเน็ต โจมตีอีกครั้ง 26 ธ.ค. นี้

วันที่ 23 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กลุ่มแฮกเกอร์ พลเมืองต่อต้าน Single Gateway ประกาศว่าจะแฮกข้อมูลบ้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. หรือ “เปิดบ้านลุงตู่” จากนั้น เวลา 20.09 น. ที่ผ่านมา เพจพลเมืองต่อต้าน Single Gateway ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความโดยระบุว่า เป็นข้อมูลของงบประมาณที่ใช้ในการขุดลอกแหล่งน้ำ ปี 2559 งบการปฏิบัติการด้านการข่าวปี 2560 หรือค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ
อย่างไรก็ตาม แฮกเกอร์กลุ่มดังกล่าวยังระบุด้วยว่าการแฮกข้อมูลของกองทัพบกของวันนี้ได้สิ้นสุดลง และจะปฏิบัติการครั้งต่อไปในวันที่ 26 ธ.ค. นี้
ที่มา>>>ข่าวสด

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ดวงถึงฆาต!ลูกตุ้มปั้นจั่นหนัก 2 ตันหลุดจากรางทับร่างคนงานแหลก น้องสาวร่ำไห้ข้างศพ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. ร.ต.อ.สรพงษ์ อภิวัน ร้อยเวรสอบสวน สภ.ธัญบุรี รับแจ้งลูกตุ้มเหล็กปั้นจั่นหนักประมาณ 2 ตัน ร่วงทับคนงานเสียชีวิต บริเวณลานดินก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร หมู่ที่ 3 ตำบลลำผักกูด อำเภอธัญบุรีจังหวัดปทุมธานี จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลธัญบุรีและเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง201612231215005-20050222192603ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 รายทราบชื่อนายเป้า ลมวงศ์ษา อายุ 38 ปี สัญชาติลาว สภาพศพถูกลูกตุ้มเหล็กของปั้นจั่น ทับอยู่บริเวณกลางลำตัว เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้คนขับเครื่องตอกปั้นจั่น ยกตุ้มขึ้น เพื่อนำศพออกมาจากที่เกิดเหตุ201612231215003-20050222192603จากการสอบถามนายตรี อายุ 38 ปี คนงานสัญชาติลาว บอกว่า ตนเป็นคนขับเครื่องตอกปั้นจั่น ส่วนผู้ตายเป็นคนคอยดูเสาเข็มและดูลวดสลิงขณะที่เครื่องตอกปั้นจั่นยกลูกตุ้มเหล็กไปนั้น ลูกตุ้มเหล็กเกิดหลุดออกจากราง ทำให้ร่วงลงมาด้านล่างทับบริเวณกลางลำตัวของผู้ตายเสียชีวิตทันที
ต่อมาน้องสาวของผู้ตายทราบว่า พี่ชายเสียชีวิตมาที่เกิดเหตุถึงกับร้องไห้ด้วยความเสียใจ ที่พี่ชายตนเองมาทำงานและต้องเสียชีวิตเช่นนี้ ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุจึงควบคุมนายตรี คนขับเครื่องตอกปั้นจั่นไว้ดำเนินคดี ส่วนผู้ตายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง นำส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ที่มา>>>ข่าวสด

วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ขนลุกเจองูเหลือมยักษ์!! ยาว 6 เมตร ขโมยกินไก่กว่า 40 ตัว จนท.ช่วยกันจับวุ่นเกือบ 2 ชม.

เวลา 01.30 น. วันที่ 21 ธ.ค. ที่บ้านคลองชมวง หมู่ที่ 8 ตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ หน่วยกู้ภัยเต็กก่าพรุดินนา ได้รับแจ้งให้ไปตรวจสอบ ที่บ้านของนายสุวัติ ไหมจันทร์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89 หมู่ที่ 8 ตำบลพรุดินนา อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ พบว่าเจองูเหลือมยักษ์ ขนาดความยาว 6 เมตร น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม เข้ามากินไก่อยู่ที่ราวตากยางข้างเล้าไก่หลังบ้าน  โดยมีหน่วยกู้ภัย และชาวบ้านจำนวน 3 คน นำอุปกรณ์การจับงู เข้าช่วยกันจับงูเหลือมยักษ์ตัวนี้ เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง201612211004313-20160805135038นายสุวัติ ไหมจันทร์ เปิดเผยว่า ไก่ที่บ้านได้สูญหายไป วันละ 1-2 ตัว เป็นเวลานานกว่า 3-4 เดือนแล้ว จากที่ได้เลี้ยงไก่มาประมาณ 40-50 ตัว จนเหลือไก่ไม่ถึง 10 ตัว แต่ตนเองคิดว่าน่าจะเป็นสุนัขมากัดกินไก่ จนมาวันนี้ ได้ยินเสียงไก่ร้องเสียงดังลั่น ในเวลาประมาณ 5 ทุ่ม จึงเดินออกไปดูทางหลังบ้าน และได้เห็นหัวขโมยกินไก่ คือ งูเหลือมยักษ์ ขนาดความยาวประมาณ 6 เมตร กำลังรัดกัดกินไก่อยู่หลังบ้าน และได้เห็นไก่ที่โดนรัดกัดตายอยู่จำนวน 3 ตัว แต่ยังไม่ถูกกิน ตนจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ หน่วยกู้ภัยเต็กก่าพรุดินนา เพื่อขอความช่วยเหลือให้มาจับงู โดยชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น ต่างพากันมาดูและช่วยกันจับงูเหลือมตัวนี้ โดยใช้เวลาประมาณเกือบ 2 ชม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสามารถจับงูเหลือมได้เป็นที่เรียบร้อย และจะนำไปปล่อยสู่แหล่งธรรมชาติต่อไป
ที่มา>>>ข่าวสด

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559

น่าเวทนา! คุณยายเป็นโรคท้าวแสนปม โดนรังเกียจทั้งหมู่บ้านจนกลายเป็นคนจรจัด

เว็บไซต์เมโทรของอังกฤษเผยเรื่องราวของ นางฮอซีเนรา เบกัม ผู้มีอาการท้าวแสนปม โดยมีก้อนเนื้องอกปกคลุมทั่วลำตัว ต้องใช้ชีวิตอย่างทรมานและโดนชาวบ้านรังเกียจเดียดฉันท์ จนต้องกลายเป็นคนจรจัด ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งของบังคลาเทศ
นางเบกัมเกิดมาพร้อมกับสิวริมฝีปากบนและตุ่มเล็กน้อย แต่เนื่องจากการผ่าตัดรักษาไม่ดี ทำให้เกิดแพร่กระจายทั่วร่างกาย โดยบางลูกมีขนาดเท่ากับลูกเทนนิสเลยทีเดียว ทุกวันนี้ไม่สามารถพูดคุย กินอาหาร หรือสวมเสื้อผ้าปกติได้ ทีเพียงหนทางเดียวก็คือตายไปจากโลกนี้
“เนื้องอกเจ็บปวดมาก เจ็บปวดสุดๆ ดิฉันเกาทั้งวันจนเลือดออกครั้งคราว ดิฉันไม่สามารถทนกับความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว ไม่มีใครมาคุยหรือมาหาเลย ผู้คนถึงกับเดินวกกลับหากเห็นดิฉันมาแต่ไกล เด็กๆ ก็กลัว แม้แต่หลานชายเห็นดิฉันก็ร้องไห้ ช่างไม่ต่างกับคนจรจัดเลย”
นางเบกัมบอกว่า แต่งงานเมื่ออายุ 16 ปี ตอนนั้นก็มีตุ่มเล็กๆ ที่ในหน้าและต้นคอ แต่อาการเริ่มแย่ลง จนสามีกลายเป็นโรคซึมเศร้าจนเสียชีวิตไปแล้ว นับแต่นั้นมาก นางเบกัมไปสถานีอนามัยที่อื่นและรอบๆหมู่บ้าน แต่ไม่มีใครวินิจฉัยโรคนี้ได้เลย
เนื่องจากไม่ได้รักษามาหลายปีและไม่ได้คนดูแลที่บ้าน จึงหวังพึ่งธรรมชาติบำบัด โดยยาปฏิชีวนะช่วยเพียงเล็กน้อย แต่ก็รักษาต่อไม่ได้เพราะไม่มีเงินแล้ว
“ไม่มีความหวังอีกแล้ว ดิฉันทรมานเหลือเกิน ตอนนี้ต้องการหลุดพ้นจากอาการเจ็บปวด เหลือแต่พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่จะเมตตา” นางเบกัมกล่าว
ที่มา>>>ข่าวสด

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ตร.ชี้ชัดฝีมือกลุ่ม‘อุลตร้าไทยแลนด์’จุดพลุไฟในราชมังคลาฯ ค้นเจอบึ้มปิงปอง-ประทัดบอลอีกอื้อ

จากกรณีแฟนบอลกลุ่มหนึ่งจุดพลุภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ระหว่างการแข่งขันทีมชาติไทยพบอินโดนีเซีย นัดชิงชนะเลิศ ศึกซูซูกิคัพ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ธ.ค. จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์s__3227682สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่18 ธ.ค. ที่สน.หัวหมาก พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พร้อมพ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รองผบก.น.4 พ.ต.อ.ศุภชัจจ์ เปี่ยมมนัส ผกก.สส.บกน.4 พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก เรียกประชุมชุดสืบสวน บก.สส.บกน.4 และฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก เพื่อเร่งติดตามคดีที่แฟนบอลไทยจุดพลุในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลซูซูกิคัพ ระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน15541550_2021174141232868_6641570347234298288_n-522x696พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า จากการสืบสวนตอนนี้พอจะทราบแล้วว่าเป็นกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นห่วงในเรื่องชื่อเสียงของประเทศ จึงกำชับมายังบช.น.ให้เร่งติดตามเรื่องดังกล่าว โดยตอนนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยายหลักฐานและเทียบเคียงภาพ เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามมาตรา 397 เป็นความผิดลหุโทษ มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท ในส่วนของการฝ่าฝืนคำสั่งคสช. ถ้าไม่มีการยิงขึ้นฟ้าก็ไม่เข้าข่ายความผิด
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวต่อว่า ภายใน 2 วันนี้ตนจะติดต่อขอเข้าพบนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อหามาตรการป้องกันและควบคุมแฟนบอลหัวรุนแรงไม่ให้ก่อเหตุในลักษณะนี้เกิดซ้ำอีก พร้อมฝากไปยังแฟนบอลที่มาเชียร์ให้เห็นแก่ภาพลักษณ์ของประเทศไทย
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบบริเวณรอบสนามยังพบประทัดบอลจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของกลุ่มใดนำมาซุกซ่อนไว้
ที่มา>>>ข่าวสด

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ชาวทุ่งสง แตกตื่น! เจอ “งูบองหลายักษ์” ยาว 4 เมตร มุดท่อระบายน้ำ

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. นายวริทธิพล สีดอกไม้ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีงูจงอางขนาดใหญ่มุดอยู่ในท่อระบายน้ำริมถนน ม.9 ต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการช่วยเหลือ จากนั้นจึงนำเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิฯ ที่มีความชำนาญพร้อมอุปกรณ์การจับงูเดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณดังกล่าว201612162039491-20041019184031-horzเมื่อไปถึงพบว่ามีชาวบ้านกำลังมุงดูกันเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบงูจงอางขนาดใหญ่นอนขดอยู่ในท่อดังกล่าว จึงใช้อุปกรณ์ทำการจับงูตัวดังกล่าว ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิคล้องงูออกมาจากท่อพบว่าเป็นงูขนาดใหญ่ยาวกว่า 4 เมตร ถึงกับแตกฮือเพราะความกลัว เจ้าหน้าที่จับงูใส่กระสอบก่อนจะนำไปปล่อยในป่ากลับคืนสูธรรมชาติ ท่ามกลางความโล่งใจของไทยมุง201612162039493-20041019184031สำหรับงูจงอางที่มีขนาดใหญ่ ชาวบ้านในภาคใต้เรียกว่า “งูบองหลา” ตามความเชื่อว่าเป็นงูเทวดา หากชาวบ้านไปทำร้ายหรือทำให้ตายจะมีอันเป็นไป ซึ่งบางแห่งจะตั้งศาลเจ้าบูชา “งูบองหลา” หรืองูจงอางตามความเชื่อในอดีต ทั้งนี้ในช่วงนี้หลายพื้นที่ในภาคใต้มีน้ำท่วมขังและน้ำไหลหลากทำให้งูหรือสัตว์เลื้อยคลานเข้ามาในเขตชุมชน กระทั่งมีการพบเห็นเป็นประจำ
ที่มา>>>ข่าวสด

วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สาว17ร้องให้ช่วย!! ล้มตัวนอนกลางขนส่ง ปวดท้องคลอด-ทารกศีรษะโผล่ แห่ตีหวยทะเบียนรถ

เวลา 10.00 น. วันที่ 16 ธ.ค. ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งเหตุสาวท้องแก่เจ็บท้องใกล้คลอด ภายในบริเวณสถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษกาญจน์ รถกู้ชีพโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา รุดไปยังที่เกิดเหตุ พบหญิงสาวท้องแก่เจ็บท้องคลอด โดยเดินทางมาคนเดียวแล้วเกิดเจ็บท้องคลอด ขณะนั่งรอรถอยู่ภายในสถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี ร้องเรียกให้คนที่อยู่บริเวณดังกล่าวช่วยเหลือ พบว่า หญิงสาวน้ำคร่ำไหลออกมาจากช่องคลอดแล้ว ก่อนที่จะเห็นหัวทารกเริ่มโผล่ตามออกมา ผู้พบเห็นจึงช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่และรถพยาบาล นำตัวส่งโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา201612161319333-20041021114617ขณะที่ชาวบ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นหญิงสาวคนดังกล่าวเดินข้ามถนนมานั่งรอรถโดยสารอยู่บนเก้าอี้ที่พักผู้โดยสารเพียงลำพัง ก่อนจะใช้มือคลำที่ท้องและมีท่าทีเหมือนคนเจ็บท้องจะคลอดลูกแล้วล้มตัวลงนอนพร้อมเรียกให้คนมาช่วย สำหรับชาวบ้านที่มาช่วยเหลือจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมเอาทะเบียนของรถพยาบาลคันที่มารับไปตีเลขเด็ดในวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาลในวันนี้ ซึ่งทราบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวชื่อ ยี ยิน เอ อายุ 17 ปี สัญชาติพม่า โดยแพทย์โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนาได้นำตัวเข้าห้องคลอดก่อนจะคลอดออกมาเป็นทารกเพศชายอย่างปลอดภัย201612161319334-20041021114617
ที่มา>>>ข่าวสด

วันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ออนเซนไทยๆ ชาวบ้านอาบน้ำแร่กลางแจ้ง กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 15 ธ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวนี้ ชาวบ้านบ้านแม่โป่ง ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นิยมไปอาบน้ำพุร้อน โดยบ่อน้ำพุร้อนดังกล่าวอยู่ที่บ้านแม่โป่ง หมู่ 6 ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด เป็นแหล่งน้ำแร่น้ำพุร้อนธรรมชาติ ซึ่งเทศบาลตำบลป่าเมี่ยง จัดสร้างโดยปรับภูมิทัศน์บริเวณน้ำพุร้อนให้เป็นจุดอาบน้ำ โดยสร้างที่นั่งเพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านนำขันน้ำมาตักอาบ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติและอากาศที่หนาวเย็น ไร้รั้วหลังคากางกั้น โดยชาวบ้านเริ่มมาอาบน้ำที่นี่เป็นกิจวัตร ช่วงเช้า 06.00 น. และช่วงบ่าย 15.00 น. คล้ายอาบน้ำแบบออนเซนของชาวญี่ปุ่น201612150939183-20021028190509นายสุจินต์ แสงแก้ว รองนายกเทศบาลตำบลป่าเมี่ยง เผยว่า เมื่อก่อนชาวบ้านจะถือขันมาตักน้ำแร่อาบที่บ่อน้ำพุแห่งนี้ทุกเช้าและเย็น และทำสืบเนื่องมา ต่อเทศบาลเข้ามาปรับปรุงภูมิทัศน์ของน้ำพุร้อนให้ดูดีขึ้น มีจุดอาบน้ำ และจุดชมน้ำพุร้อน สำหรับการอาบน้ำแร่ของชาวบ้านในละแวกนี้ ถือเป็นวิถีชีวิตประจำวัน และพูดปากต่อปาก ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมและอาบน้ำแร่ แม้แต่ชาวญี่ปุ่นทราบข่าวถึงกับบินมาอาบน้ำที่นี่ เรียกได้ว่าเป็นออนเซนแบบไทย ไม่ต้องบินไปไกลถึงญี่ปุ่น ที่ จ.เชียงใหม่ก็มี ดีกว่าด้วย201612150939184-20021028190509นายสุจินต์ กล่าวว่า ชาวบ้านเชื่อกันว่าการแช่น้ำพุร้อน นอกจากช่วยผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยล้าของร่างกายแล้ว ยังรักษาและทุเลาอาการเจ็บปวดบางอย่างได้ด้วย การแช่น้ำพุร้อนก็เหมือนการทำธาราบำบัด ส่งผลให้ระบบหมุนเวียนของกระแสเลือดในร่างกายดีขึ้น ทำให้กลากเกลื้อนหายด้วย ตอนนี้ยังมีนักท่องเที่ยวมาร่วมอาบน้ำแร่น้ำพุร้อนด้วย ทำให้เป็นการเปิดสถานที่ท่องเที่ยวในรูปแบบอาบน้ำออนเซนแบบไทย ด้วย คึกคักและธรรมชาติสุด ๆ
ที่มา>>>ข่าวสด

วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2559

พ่อนายพล พาเจมส์บอนด์ สืบชะตาสะเดาะเคราะห์ ลดกรรม หายเจ็บเตรียมบวช

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2559 พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ที่ 38 จ.น่าน พร้อมด้วยนางปุนยวัจนา วรรคาวิสันต์ ภริยา นำบุตรชาย นายอภิราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ หรือเจมส์บอนด์ ทำพิธีสืบชะตาสะเดาะเคราะห์ ที่ วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง อ.ภูเพียง จ.น่าน หลังจากกรณีถูกรุมทำร้ายร่างกาย โดยมีคู่กรณี คือ นายกฤษณะ อมิตรสูญ หรือบอล แฟนหนุ่มอุ้ม ลักขณา พร้อมพวก รวม 4 คน ร่วมกันทำร้ายร่างกายที่มาลิน สกาย เชียงใหม่นั้น
โดยมีพระเดชพระคุณพระชยานันทมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง เป็นผู้ทำพิธี ผูกด้ายสายสิญจน์ข้อมือ และรดน้ำมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต201612141326051-20090615145041นายอภิราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ หรือเจมส์บอนด์ เปิดเผยว่า อาการบาดเจ็บขณะนี้ดีขึ้นมาก จะมีก็ที่บริเวณจมูกที่ยังเจ็บอยู่บ้าง และฟัน ซึ่งทางแพทย์ได้ใช้เครื่องมือดามไว้ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะจึงจะหายสนิท201612141326053-20090615145041ด้านนางปุนยวัจนา วรรคาวิสันต์ กล่าวว่า ทำบุญสะเดาะเคราะห์เป็นความเชื่อแบบชาวเหนือ ที่เชื่อว่าบุญกุศที่ได้อานิสงส์เป็นผลให้เกิดความโชคดี และแก้เคราะห์ ลดกรรม และอีกทางก็ช่วยในด้านของจิตใจ เพื่อให้เรามีสติ และพร้อมจะดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างราบรื่น ซึ่งทางครอบครัว รวมทั้งตัวน้องเจมส์บอนด์นั้น มีความตั้งใจจะบวช แต่ยังติดเรียน และอีกหลายอย่าง โดยจะรอให้เรียนจบและสุขภาพดีเป็นปกติ จะวางแผนเรื่องบวชอีกครั้ง ส่วนด้านคดีขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งความคืบหน้าอะไร คงต้องรอให้เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย
ที่มา>>>ข่าวสด

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เตือนระวัง เหยี่ยวจิกหัว ที่ ต.กมลา จ.ภูเก็ต หลังมีชาวบ้านถูกทำร้าย แผลเหวอะเย็บ 5 เข็ม

วันที่ 13 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้มีการแจ้งเตือนจากสมาชิกอบต.กมลา ถึงอันตรายจากนกเหยี่ยวที่ทำร้ายชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว จนได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ โดยนายเสรี ลาภมาก รองนายกอบต.กมลา ระบุว่า นกเหยี่ยวตัวดังกล่าวน่าจะเป็นเหยี่ยวที่ถูกปล่อยมา ซึ่งได้ทำร้ายชาวบ้านไปหลายราย ตอนนี้ชาวบ้านโดนทำร้ายไป 4 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย มีบาดแผลขนาดถึงต้องเย็บถึง 5 เข็ม 2 ราย กำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเกรงว่าคนในพื้นที่จะป้องกันตัว ทำร้ายนกเหยี่ยวจนถึงชีวิตเสียก่อน
ด้านนายพงศ์ชาติ เชื้อหอม หัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติเขาพระเเทว จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ถ้าเหยี่ยวตัวดังกล่าวยังอยู่ในพื้นที่ต้องขอให้ชาวบ้านหรือมูลนิธิหรือหน่วยกู้ชีพในพื้นที่หาวิธีช่วยกันจับ โดยสามารถใช้วิธีการใช้เหยื่อล่อแล้วทอดแหจับหรือใช้กรงดัก ถ้ารอเจ้าหน้าที่เดินทางไปอาจทำให้เหยี่ยวหายตัวไปก่อน อย่างไรก็ตามหากพบว่าเหยี่ยวตัวดังกล่าวมีเจ้าของนั้น สามารถดำเนินคดีกับเจ้าของได้ตามกฏหมาย เนื่องจากทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ
ที่มา>>>ข่าวสด

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สลดหนุ่มการบินไทย เลิกงานขี่ จยย. กลับห้องพัก ชนต้นไม้คอหัก บนถนนรอบสนามบิน

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 12 ธ.ค. พ.ต.ท.สมชาติ มณีรัตน์ สว.เวร สภ.สุวรรณภูมิ สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่การท่า และมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบสภาพศพ นายกริชไกรฤกษ์ มนตรา อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา และเป็นพนักงานฝ่ายอุปกรณ์ภาคพื้น บมจ.การบินไทย นอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างต้นไม้ข้างทางในสภาพคอหัก ศีรษะแตก ใกล้กันพบหมวกกันน็อกครึ่งใบตกหล่นอยู่ ส่วนรถจักรยานยนต์ พบกระเด็นตกลงไปในคูน้ำข้างทาง เป็นรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สี ฟ้า หมายเลขทะเบียน 2 กฮ 1443 กทม
เบื้องต้นจากการสอบถามเจ้าหน้าที่สายตรวจการท่า ระบุว่า ขณะกำลังลาดตะเวนอยู่นั้นมีรถจักรยานยนต์พลเมืองดีมาแจ้งว่า มีชายนอนอยู่ข้างทางจึงมาตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตแล้ว ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานว่าผู้เสียชีวิตเพิ่งเลิกงานออกมาและกำลังจะกลับห้องพักโดยขับรถมาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงทีเกิดเหตุอาจหลับในจนรถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้ลงบันทึกประจำวันและจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอีกครั้งว่าเกิดเหตุอย่างไร
ที่มา>>>ข่าวสด

วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2559

นักอนุรักษ์ ต้านเมนูร้านสุกี้ดังเสริฟ “ลูกชิ้นหูฉลาม” จี้ทบทวนก่อนโดนบอยคอต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกเฟซบุ๊ก ได้ออกมารณรงค์ผ่านเฟซบุ๊กเพื่อต่อต้านเมนูที่ทำจากหูฉลามของร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งมีสาขาทั่วประเทศ โดยระบุว่า “เลิกได้ไหม ลูกชิ้นหูฉลามที่สุกี้ XXXX ในขณะที่ร้านอาหารทั่วโลกต่างตื่นตัวกันเรื่องอาหารทะเลยั่งยืน และพากันปรับเปลี่ยนการจัดซื้อหาอาหารทะเลที่ได้มาจากการประมงที่ไม่ทำลายล้าง ร้านอาหารชื่อดัง XXXX กลับเพิ่มเมนูลูกชิ้นกุ้งหูฉลาม เมนูใหม่ที่หวังเพิ่มมูลค่าให้กับสัตว์ผู้ล่าใต้ทะเลที่นับวันหายากขึ้นทุกที
การสนับสนุนอาหารทะเลยั่งยืนทำได้ง่ายๆ ด้วยการไม่ส่งเสริมและสนับสนุนการบริโภคปลาหายากหรือสัตว์ทะเลที่มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ การยกเลิกเมนูหูฉลาม ปลาฉลาม ปลานกแก้ว จึงเป็นอะไรที่ทำได้ง่ายที่สุด ในทางตรงข้าม หากร้านอาหารขนาดใหญ่นำเอาหูฉลามมาเป็นส่วนประกอบย่อมเป็นการเพิ่มความต้องการให้ตลาดอีกมาก เพราะ XXXX มีสาขากว่า 428 แห่งทั่วประเทศ ถ้ามีการเสิร์ฟเมนูนี้ทุกวันทุกสาขา จะต้องใช้ฉลามกี่ตัวต่อวัน กี่ตัวต่อปี จับมาจากที่ไหน จับมาจากในเขตอนุรักษ์หรือไม่
การนำหูฉลามมาเป็นส่วนประกอบของลูกชิ้นจึงเป็นการทำลายชื่อเสียงร้านอาหาร XXXX แบบไม่แคร์กระแสโลกตอนนี้กลุ่มอนุรักษ์ต่างๆ เช่น Shark Guardians ได้ทำการรณรงค์ให้คนบอยคอตต์ไม่สนับสนุนร้าน XXXX อีกต่อไป และกำลังเป็นที่กล่าวขวัญว่า คิดได้อย่างไรในการนำเสนอเมนูเช่นนี้ ทั้งๆที่มีการรณรงค์เรื่องหูฉลามทั่วโลกกันมาเป็นเวลานาน หวังว่าทางผู้บริหาร XXXX จะทบทวนและรีบแก้ไขโดยด่วน ถ้าให้ดีควรตั้งเป้าสนับสนุนอาหารทะเลยั่งยืนเป็นตัวอย่างให้กับร้านอาหารอื่นๆ ให้สมกับที่เป็นร้านอาหารชั้นนำแบรนด์ไทยแลนด์แต่ถ้ายังดื้อดึงเห็นดีเห็นงามกับเมนูลูกชิ้นหูฉลาม เราอาจจะได้เห็นคนจำนวนมากเลิกกินสุกี้ XXXX กันก็คราวนี้”
ที่มา>>>ข่าวสด

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เดินย่ำน้ำ ดิน ทรายเท้าเปล่า ระวัง! หมอเผยภาพพยาธิใชเนื้อ ชอนใชเข้าผิวหนัง

นพ.อรรณพ บุญหวังช่วย แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ นำภาพพยาธิที่พบได้บ่อยในช่วงที่ฝนตกมาเผยแพร่โดยระบุว่า “โรคที่เอามาแชร์ ให้ดูวันนี้เป็นโรคที่พบได้บ่อยในช่วงนี้คือช่วงหน้าฝนตกของทางภาคใต้ครับ คือ โรคพยาธิไชเนื้อ หรือ Larva migrans เกิดจากการที่เราถูกพยาธิปากขอไชเข้าทางผิวหนัง แล้วชอนไช ไปตามผิวหนัง ทำให้เกิดรอยแดงเป็นทางยาววกไปวนมาค่อยๆยาวขึ้นเรื่อย รอยแดงที่เกิดขึ้นเกิดจากปฏิกิริยาต่อต้านของร่างกายต่อเชื้อพยาธิ มีอาการคันมาก ซึ่งมักจะพบในคนที่เดินเท้าเปล่า บนดินบนทราย หรือเข้าไปในป่าที่ค่อนข้างชื้น ที่มีตัวพยาธิเกาะอยู่ตามใบไม้ ตามพื้น หรือที่แฉะ โดยเฉพาะหน้าฝนหรือน้ำท่วม จะพบได้บ่อยขึ้น ดังนั้น ช่วงนี้เราควรใส่รองเท้าเวลาออกไปข้างนอกอย่าย่ำเท้าเปล่านะครับ และถ้าพบเกิดผื่นลักษณะแบบนี้ให้รีบไปรักษาหายขาดได้ครับ ด้วยการทานยาถ่ายพยาธิ เป็นห่วงนะครับ ดูแลสุขภาพให้ดีๆนะครับทุกคน”983123083_n-horz
ที่มา>>>ข่าวสด

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ไหม้ระทึก! บ้าน “สนธยา คุณปลื้ม” ชาวบ้านอยู่ใกล้ รีบช่วยดับทัน หวิดวอดทั้งหลัง

วันที่ 6 ธ.ค. ร.ต.อ.เกีตรติศักดิ์ เขจรจิตร รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่บ้านเลขที่ 38 ซอยทองหล่อ 25 ถนนสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงประสานเจ้าหน้าสถานีดับเพลิงคลองเตย ก่อนนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 3 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 70 ตาราง เป็นบ้านร้างไม่มีผู้อาศัย พบกลุ่มควันชั้นที่ 3 ตรวจสอบเป็นไฟไหม้ที่นอนและเศษผ้า โดยชาวบ้านใกล้เคียงพบเห็นกลุ่มควันดังกล่าว จึงใช้ถังดับเพลิงฉีดจนไฟดับ จากนั้นจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
ร.ต.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชลและอดีต รัฐมนตรีหลายกระทรวง บ้านได้ซื้อไว้หลายปีแล้ว โดยปกติจะมีคนคอยดูแล แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดติดต่อกันหลายวัน คนดูแลจึงขออนุญาตกลับบ้าน ในช่วงเวลาดังกล่าวจึงไม่คนอยู่ เบื้องต้นในวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
ที่มา>>>ข่าวสด

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ดำน้ำเกาะรอกช็อกดับ!! นักท่องเที่ยวเช่าเรือยอชต์ไปลังกาวี แวะเที่ยวกระบี่ เป็นศพดับสลด

เมื่อช่วงเช้า วันที่ 6 ธ.ค. พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว สถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ได้รับเเจ้งจากชาวออสเตรียว่า มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตขณะดำน้ำดูปะการังบริเวณเกาะรอก จังหวัดกระบี่ เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา เเละจะนำศพผู้เสียชีวิตมาขึ้นยังท่าเรือฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต
หลังรับเเจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาเเละประสานสถานกงสุลประจำภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง เเละเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยร่วมใจภูเก็ตเพื่อช่วยรับศพเเละอำนวยความสะดวก โดยนำศพผู้เสียชีวิตส่งต่อยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต201612060932422-20160211172134ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตทราบชื่อ คือ นาย faupel Klausjoachim อายุ 75 ปี สัญชาติออสเตรีย ซึ่งได้เดินทางมากับเพื่อน 10 คน เดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยได้เช่าเรือยอชต์ของท่าเรือยอชต์เฮเว่น ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เพื่อเดินทางไปยังเกาะลังกาวีประเทศมาเลเซีย ระหว่างทางได้แวะท่องเที่ยวดำน้ำที่เกาะรอก จ.กระบี่ โดยลงไปดำน้ำกับเพื่อนรวม 4 คน ระหว่างดำน้ำอยู่นั้นได้เกิดช็อกกะทันหันและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เพื่อนๆ จึงได้ติดต่อนำศพผู้เสียชีวิตมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือฉลองเพื่อนำกลับประเทศต่อไป
ที่มา>>>ข่าวสด

วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สลด!! ช่างแต่งหน้านักร้อง-ดาราดัง ดับปริศนาคาห้องพักเมืองทอง หลังติดต่อไม่ได้นาน 5 วัน

วันที่ 2 ธ.ค. ร.ต.อ.ปิโยรส ชูกุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต ภายในห้องเลขที่ 26/365 ชั้น 6 อาคารที 12 เมืองทองธานี ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตมีรูปร่างใหญ่หนักประมาณ 200 กิโลกรัม ในลักษณะนอนหงายอยู่บนเตียงนอน สวมชุดแซ็กสีดำ ทราบชื่อคือนายพิตรพิบูล เตชะยงค์วงษ์กุล อายุ 40 ปี สาวประเภทสอง มีอาชีพเป็นช่างแต่งหน้าให้กับนักร้องและนักแสดง จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 วัน นอกจากนี้ภายในห้องยังพบโทรทัศน์และเครื่องปรับอากาศยังเปิดใช้งานอยู่ เจ้าหน้าที่จึงนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิต เพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางญาติและเพื่อนร่วมงานให้ข้อมูลว่าพบเห็นนายพิตรพิบูล ครั้งสุดท้ายเมื่อเย็นวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมาโดยไปร่วมงานศพคนรู้จัก และตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. ก็ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งผิดสังเกตจึงได้เดินทางมาตรวจสอบที่ห้องพักถึงทราบว่านายพิตรบูล เสียชีวิตแล้ว โดยผู้เสียชีวิตมีอาชีพเป็นช่างแต่งหน้าให้กับดารานักร้องและนักแสดงชื่อดังหลายคน มานานกว่า 20 ปี ก่อนหน้านี้ได้มีเพื่อนร่วมงานขึ้นมาเคาะประตูห้องแต่ไม่มีการตอบรับ ได้ยินเสียงโทรทัศน์เปิดอยู่จึงเข้าใจว่านายพิตรพิบูล คงหลับพักผ่อนจึงได้เดินทางกลับ แต่หลังจากวันนั้นต่อมาก็ยังไม่สามารถติดต่อได้อีกจนมาทราบว่าวันนี้เสียชีวิตแล้ว
ที่มา>>>ข่าวสด

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ประกาศฉบับเต็ม สนช. เรื่อง อัญเชิญองค์รัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สนช. เรื่อง อัญเชิญองค์รัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ และเฉลิมพระปรมาภิไธย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2559 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ออกประกาศของ สนช. ว่าด้วยการอัญเชิญองค์รัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
โดยที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เสด็จสวรรคตแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาตรา 2 วรรคสอง ประกอบกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 23 วรรคหนึ่ง ได้บัญญัติ เรื่องการสืบราชสันตติวงศ์ว่า ในกรณีที่ราชบัลลังก์หากว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้ง พระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467 แล้ว ให้คณะรัฐมนตรีแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบ และให้ประธานรัฐสภาเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อรับทราบ และให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป แล้วให้ประธานรัฐสภา ประกาศให้ประชาชนทราบ
โดยที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงแต่งตั้งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นพระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช 2467 แล้ว เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พุทธศักราช 2515 สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทําหน้าที่รัฐสภาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ได้รับทราบกรณีสวรรคตดังกล่าวด้วยความโทมนัสยิ่ง โดยเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2559 สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้มีการประชุมเพื่อรับทราบการแต่งตั้งพระรัชทายาท และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทําหน้าที่ประธานรัฐสภา ได้นําความกราบบังคมทูลอัญเชิญ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 มาตรา 2 วรรคสอง ประกอบกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 23 วรรคหนึ่ง
จึงขอประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกันว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เป็นต้นไปcatserere4f
ที่มา>>>ข่าวสด

วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559

อำมหิต! ทุบหัวปาดคอทารกแรกเกิดทิ้งถังขยะ ตร.ล่าตัว 1 ชาย 2 หญิงวัยรุ่นต้องสงสัย

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 1 ธันวาคม พ.ต.ท.นัทธกานต์ วรรณพันธ์ สารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่า พบศพเด็กทารกแรกเกิดถูกฆ่า แล้วนำมาถึงไว้ในถังขยะข้าง สวนสาธารณะวังมัจฉาริมหนองบัว ถนนเลียบริมหนองบัว คุ้มกาฬสินธุ์ ชุมชนหนองเหล็ก เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.ท.เจริญชัย พิกุลกาญจน์ รองสวป., เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ,เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน,แพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และมูลนิธิอุดรส่งเสริมธรรม
ที่เกิดเหตุพบศพของทารกเพศหญิงแรกเกิดพร้อมกับสายรก อายุครรภ์ 7- 8 เดือน อยู่ในถุงพลาสติกสีดำ อยู่ในถังขยะสีดำ สภาพศพ ที่บริเวณศีรษะ มีรอยเขียวช้ำและยุบลงไปหลายแห่ง เหมือนถูกของแข็งทุบหัวและที่บริเวณลำคอขาดถูกของมีคม ลึก 2 ซ.ม.ยาว7.5 ซ.ม.จนหลอดลมขาด
จากการสอบสวน นางหนูแดง ศรีกลาง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/2 ถนนโพธิ์ศรี ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี ผู้พบศพเด็กทารก มีอาชีพเก็บขยะบริเวณรอบสวนสาธารณะวังมัจฉาริมหนองบัวให้การว่า มีอาชีพนี้มาได้ 6 ปี ซึ่งจะเก็บขยะที่นี้ทุกคืน ก่อนเกิดเหตุขณะที่กำลังเก็บขยะอยู่ก็เห็นวัยรุ่นซ้อนรถจยย. มาด้วยกัน 3 คนมีผู้ชายเป็นขับ ส่วนผู้หญิงอีก 2 คนนั่งซ้อนท้ายได้ขับรถผ่านตนไป ส่วนที่ถังขยะนั้นปิดฝาอยู่เมื่อตนเปิดถังขยะออกมาแล้วพบถุงดำอยู่จึงแกะออก ถึงกับตกใจพบศพเด็กทารก ถูกฆ่าแล้วนำมาทิ้ง ไว้ในถังขยะดังกล่าว
พ.ต.ท.นัทธกานต์ เปิดเผยว่า คดีนี้ถือว่าเป็นเหตุฆาตกรรมเด็กทารก ก่อนนำศพมาทิ้งไว้ในถังขยะ โดยจะได้ในตำรวจชุดสืบสวน ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด เส้นทางบริเวณรอบสวนสาธารณะริมหนองบัว และ ตามหอพัก ต่างๆ ที่อยู่ใกล้แถวนี้ เพื่อเป็นเบาะแส ในการติดตามตัวคนร้ายที่อาจจะเป็นพ่อแม่เด็กทารกที่ไม่พร้อมจะมีลูก แล้วก่อเหตุฆ่าเด็กทารกอย่างอำมหิต
พ.ต.ท.นัทธกานต์กล่าวว่า ส่วนวัยรุ่น3 คน จะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ อยู่ระหว่างดำเนินการติดตามตัว มาสอบสวนข้อเท็จจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ทำการเก็บดีเอ็นเอ ที่กระพุ้งแก้มและบริเวณรกศพเด็กทารก ในการนำไปเปรียบ เพื่อหาตัวพ่อแม่ของเด็ก และเพื่อเป็นหลักฐาน ในทางนิติวิทยาศาสตร์ ในรูปคดีต่อไป
ที่มา>>>ข่าวสด

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ท้องเสียอย่าชะล่าใจ! หนูน้อยท้องเสียหนัก พ่อ-แม่พาส่งโรงพยาบาล ให้น้ำเกลือแต่เกิดช็อกดับ

สมาชิกเฟซบุ๊ก “สุธาทิย์ หามูลใต้” โพสต์เฟซบุ๊ก เหตุการณ์หลังเกิดเหตุหลานชายป่วย ท้องเสียอย่างหนักและเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยแพทย์ให้น้ำเกลือ แต่ปรากฎว่าหลานชายเกิดช็อก ทางทีมแพทย์ได้ปั๊มหัวใจถึง 2 รอบ แต่ไม่เป็นผล หลานชายเสียชีวิตลงในที่สุด ซึ่งตัวเธอบอกต่อว่า ทางแพทย์ระบุว่าน้ำเกลือแร่ขึ้นสมอง ไตวาย ไตทำงานหนัก จึงเสียชีวิต ซึ่งตัวเธอและญาติต่างสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แค่ท้องเสียทำไมถึงกับต้องเสียชีวิต
ที่มา>>>ข่าวสด

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เณรตกใจ!! เข้าไปปลุกพระเพิ่งบวชได้ 2 วัน พบเป็นศพ มรณภาพปริศนา ช็อกมือเกร็ง

พระภิกษุบวชใหม่ได้เพียง 2 วัน ที่วัดหนองม่วง ต.นิคม อ.สตึก บุรีรัมย์ นอนมรณภาพคาศาลาวัด โดยไม่ทราบสาเหตุ ตำรวจตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร พบสภาพศพมีผ้าห่มสีเหลืองคลุมโปง มือเกร็ง คาดเมื่อคืนที่ผ่านมาอากาศหนาว ประกอบกับผู้เสียชีวิตเคยดื่มสุราเป็นประจำแล้วมาหยุดดื่มระหว่างมาบวช
วันที่ 29 พ.ย. ร.ต.อ.ธนดอน ภักษารัมย์ พนักงานสอบสวน สภ.สตึก อ.สตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีพระนอนเสียชีวิตภายในศาลาวัดหนองม่วง ตำบลนิคม อำเภอสตึก จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลสตึก
ที่เกิดเหตุเป็นศาลาวัดชั้นเดียว พื้นขัดหินอ่อน พบศพทราบชื่อ คือ พระสมส่วน รามะมะ อายุ 49 ปี อยู่หมู่ 10 ตำบลนิคม อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ นอนมรณภาพในสภาพมีผ้าห่มสีเหลืองคลุมโปง เห็นเพียงแขนซ้ายที่โผล่ออกจากผ้าห่ม ซึ่งมีลักษณะมือเกร็ง ตรวจสอบละเอียดไม่มีร่องรอยหรือบาดแผลตามร่างกาย คาดเสียชีวิตมาประมาณ 3 ชั่วโมง
201611291034012-20161102133547สอบถามเจ้าอาวาสวัด ทราบว่า พระสมส่วน ได้มาบวชที่วัดแห่งนี้เมื่อ 2 วันก่อน ซึ่งเป็นโครงการอุปสมบทหมู่ เมื่อคืนที่ผ่านมาเห็นพระสมส่วน ได้เข้านอนตามปกติ พอรุ่งเช้าไม่ยอมตื่นจึงให้เณรไปปลุก ก็ต้องตกใจ เมื่อทราบว่าเสียชีวิตแล้ว
ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิต น่าจะเกิดจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นฉับพลัน ประกอบกับผู้ตายนอนกับพื้นหินอ่อนซึ่งมีเพียงเสื่อปูนอน และจากการสืบทราบผู้ตายเป็นคนดื่มสุราเป็นประจำ เมื่อหยุดดื่มกะทันหันร่างกายอาจจะปรับตัวไม่ได้ จึงช็อกเสียชีวิตดังกล่าว
ที่มา>>>ข่าวสด

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ตร.สปพ.บุกยึดสินค้าแบรนด์เนมหนีภาษีมูลค่า 4 ล้าน

 เมื่อวันที่ 27 พ.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบก.สปพ. พร้อมด้วยพ.ต.ต.สุรวัช สัตยากุล สว.กก.บก.ปอศ. พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา ผกก.กก.6 บก.ทท. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน และพ.อ.นพสิทธิ์ สิทธิพงศ์โสภณ ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจค้นทาวน์โฮมเลขที่ 1104/375 หมู่บ้านโนเบิล คิวบ์ ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ถายหลังสืบทราบว่าลักลอบจำหน่ายสินค้าหนีภาษี
1
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องทางจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าบ้านหลังดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่ายสินค้าหนีภาษีผ่านทางอินสตาแกรม โดยใช้ชื่อว่า “brandnamemafia” ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 5 หมื่นราย จึงส่งสายลับทำทีล่อซื้อกระเป๋า Hermes รุ่น Birkin 30 Etoupe with gold hardware stamp X ในราคา 549,000 บาท ก่อนจะนัดรับสินค้าที่จุดเกิดเหตุเมื่อไปถึงพบน.ส.ปริศนันท์ พงศ์พิพัฒน์เวช อายุ 30 ปี เป็นผู้นำสินค้ามามอบจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบรองเท้าผ้าใบยี่ห้อไนกี้ อดิดาส รีบ็อกซ์ รวม 280 คู่ กระเป๋าแบรนด์เนมและเครื่องประดับรวม 23 รายการ มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท จึงตรวจยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรทราบว่า ผู้ที่ลักลอบนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายในลักษณะดังกล่าว มีพฤติกรรมชอบเดินทางเข้า-ออกภายในประเทศอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งมักจะไปเลือกสินค้าด้วยตนเองเมื่อได้สินค้าตามตลาดต้องการหรือที่ลูกค้าสั่งจองไว้จะเดินกลับทันทีโดยไม่นำสินค้าติดตัวมาด้วย หลังจากนั้นจะใช้วิธีการขนส่งทางคาร์โก หรือฝากผู้อื่นเข้ามาแทนก่อนจะนำสินค้าทั้งหมดมาวางขายบนโลกออนไลน์ นอกจากนี้ผู้ที่ลักลอบจำหน่ายสินค้าหนีภาษีส่วนใหญ่จะจบการศึกษาจากต่างประเทศโดยไม่ได้ประกอบอาชีพแม้แต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ซื้อรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนควรรู้ว่านำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยเลี่ยงอากรข้อห้ามข้อจำกัด โดยมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนขยายผลติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา>>>ข่าวสด

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เจาะโปรโมชั่น Truemove H ลดราคา iPhone 7 ครึ่งราคา เริ่มต้น 13,050 บาท

เจาะโปรโมชั่น Truemove H ลดราคา iPhone 7 ครึ่งราคา เริ่มต้น 13,050 บาทแน่นอนว่าโปรโมชั่นของ iPhone 7 นั้นแต่ละค่ายก็มีความน่าสนใจไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่สำหรับบทความนี้เราจะมาเจาะลึกเกี่ยวกับโปรโมชั่นของ Truemove H ที่ให้คุณซื้อ iPhone 7 ได้ในราคาลด 50% นั่นจะทำให้ iPhone 7 ขนาด 32GB จะเหลือราคา 13,050 บาทจากราคาปกติ 26,500 บาท
แคมเปญนี้จะสามารถใช้ได้จะต้องมีบัตร True Black Card พร้อมกับเปิดเบอร์ใหม่ หรือย้ายค่ายมา และสมัคร แพ็คเกจ ราคา 899 ขึ้นไป แต่สำหรับ iPhone 7 จะต้องสมัครโปรโมชั่น 1,099 บาท พร้อมชำระค่าบริการ 5,000 เป็นส่วนลด 20 เดือน แต่สัญญาของเบอร์ใหม่จะเป็น 24 เดือน โดยจะซื้อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ได้ดังนี้
–  iPhone 7 ขนาด 32GB จากปกติ 26,500 บาท เหลือ 13,050 บาท
–  iPhone 7 ขนาด 128GB จากปกติ 30,500 บาท เหลือ 17,050 บาท
–  iPhone 7 ขนาด 256GB จากปกติ 34,500 บาท เหลือ 21,050 บาท
–  iPhone 7 Plus ขนาด 32GB จากปกติ 31,500 บาท เหลือ 18,050 บาท
–  iPhone 7 Plus ขนาด 128GB จากปกติ 35,500 บาท เหลือ 22,050 บาท
–  iPhone 7 Plus ขนาด 256GB จากปกติ 39,500 บาท เหลือ 26,050 บาท

“สำหรับชาวพิษณุโลก ” สนใจอยากสร้างเว็บไซต์เพื่อเพิ่มช่องทางของกับธุรกิจ ให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้ามากขึ้น มีความทันสมัย เข้ากับธุรกิจและผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจ บริษัท Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ พิษณุโลก ออกแบบเว็บไซต์ ด้วยทีมงานมืออาชีพรับออกแบบจัดทำเว็บไซต์ขายของออนไลน์ E-commerce รองรับมือถือและแท็บเล็ต(Responsive) รับทำ SEO พิษณุโลก ด้วยทีมงานมืออาชีพ‎