วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2559

แบบนี้ก็มี!! ร้านอาหารติดประกาศ ลูกค้านั่งกินคนเดียวต้องเสียค่าโต๊ะเพิ่ม 50 บาท!!

กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในโลกออนไลน์ เมื่อเพจ เปี๊ยก ไรเดอร์ V2 ได้โพสต์ภาพประกาศของร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งระบุว่า “เรียนลูกค้าที่มานั่งทานคนเดียว ทางร้านขอคิดค่าโต๊ะ 50 บาท แต่ถ้านั่งเกิน 1 ชั่วโมงขึ้นไป ทางร้านขอคิดค่าโต๊ะ 200 บาท”%e0%b8%ab%e0%b8%9f%e0%b8%81%e0%b8%9f%e0%b8%ab%e0%b8%81โดยเพจดังกล่าวโพสต์แบบตัดพ้อว่า “แค่โสดก็แย่พอแล้ว มาแดกข้าวเหงาๆ โดนชาร์จค่านั่งคนเดียวอีก…” อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีคนแชร์และแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นการเอาเปรียบลูกค้าหรือไม่
ที่มา>>>ข่าวสด

สลด2แม่ลูกขี่จยย.ไปรับสามีหลังเลิกงานถูกกระบะเฉี่ยวล้มรถตู้ทับซ้ำ..ตายทั้งคู่

เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 29 ก.ย.59 ร.ต.ท.ชน เปียสัมปทวน พนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีรถยนต์ตู้โดยสารชน จยย.มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 24 ถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ขาออก หมู่ 6 ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบ ศพ น.ส.เนตรนภา สายสุจริต อายุ 26 ปี ชาวต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ห่างออกไปประมาณ 40 เมตรพบร่างผู้เสียชีวิตรายที่สองคือ ด.ช.พีรภัทร อุรีรักษ์ อายุ 1 ขวบ 3 เดือน ทั้ง 2 คนเป็นแม่-ลูกกัน ข้างทางพบรถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเทาดำ ทะเบียน กฉต 477 นนทบุรี สภาพรถพังเสียหายล้มคว่ำอยู่ มีกันชนรถตู้ตกอยู่ ที่ขอบทางด้านซ้าย พบรถยนต์ตู้โดยสารสาธารณะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 10-2382 สุพรรณบุรี วิ่งระหว่างกรุงเทพ ฯ-หันคา สภาพด้านหน้ารถมีร่องรอยการชนพังเสียหาย โดยมีผู้ขับขี่ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่า รถ จยย.ของผู้เสียชีวิตถูกรถยนต์กระบะเฉี่ยวชนจนล้มลงก่อนที่จะหลบหนีไปและเป็นจังหวะเดียวกันกับรถตู้โดยสารที่ขับตามหลังมาเบรคไม่ทันจนพุ่งชนและทับซ้ำ
นายไพฑูลย์ อุรีรักษ์ อายุ 26 ปี สามมี น.ส.เนตรนภา กล่าวว่า ตนมีบ้านอยู่ในซอยใกล้ที่เกิดเหตุ ส่วนน.ส.เนตรนภา จะพาบุตรชาย ขับรถ จักยานยนต์มารับตนหลังเลิกงาน ที่โรงงานไทยนิปปอน ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม คาดว่าจังหวะที่ขับข้ามถนนมา ถูกรถชน จนเสียชีวิต ทั้งสองคน
จากการสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่าผู้ตายพยายามขับขี่ จยย.ข้ามถนนเพื่อไปรับสามีแต่ไม่ทันได้สังเกตุเห็นรถยนต์กระบะที่มาด้วยความเร็วเนื่อวจากจุดเกิดเหตุเป็นที่มืด จึงทำให้ถูกรถยนต์กระบะนั้นเฉี่ยวชนก่อนที่จะถูกรถตู้โดยสารที่วิ่งตามหลังมาชนซ้ำจนเสียชีวิต แต่อย่างไรก็ต้องติดตามนำตัวผู้ขับขี่รถตู้โดยสารมาทำการสอบสวนเพิ่มเติมพร้อมทั้งแจ้งข้อหาและดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิตเพื่อชันสูตร ต่อไป
ที่มา>>>ข่าวสด

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559

อดีตนายทหารหลานชาย”ขุนพันธรักษ์ ราชเดช” ผูกคอฆ่าตัว ผบ.ร.16 ลูกเขย เผยพ่อตาป่วยซึมเศร้า

วันที่ 28 ก.ย.59 ผู้สื่อข่าวรายงาน โดย ร.ต.อ.เที่ยง ตั้งดำรงค์วัฒน์ ร้อยเวร สภ.เมืองยโสธร รับแจ้งเหตุมีชายวัยสูงอายุผูกคอเสียชีวิต เหคุเกิดที่แฟลตร้างขนาดสูง 4 ชั้น ด้านหลังอาคารกรมทหารราบที่ 16 ค่ายบดินทรเดชา ต.เดิด อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบยังที่ได้รับแจ้ง โดยพบเหตุเกิดบนชั้นที่ 4 ห้องที่ 2 ของแฟลตร้างหลังดังกล่าว ในที่เกิดเหตุพบสายไฟเก่า ที่ผู้เสียชีวิตใช้ผูกโยงกับกับลูกกรงเหล็กหน้าต่าง โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัย ฮุก31 ได้นำร่างส่ง ร.พ.ยโสธร และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการสอบถามทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ พ.ท.นิคม ราชเดช อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ซอยก้าวหน้า ถ.นคร อ.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และทราบว่า พ.ท.นิคม ราชเดช เป็นหลานชายของ ขุนพันธรักษ์ ราชเดช อดีตมือปราบจอมขมังเวท และผู้เสียชีวิตยังเป็นบิดาของ พ.ท.หญิงช่อทิพย์ ราชเดช ภรรยา พ.อ.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ ผบ.ร.16 จากการสอบถาม พ.อ.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ ลูกเขยทราบว่า พ.ท.นิคม ฯ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และเป็นอัลไซเมอร์ ชอบออกมาเดินนอกบ้านบ่อยๆ โดยจะมีผู้ดูแลใกล้ชิด จนช่วงก่อนเกิดเหตุผู้ดูแลไม่พบผู้เสียชีวิต จึงได้ประสานทหารช่วยออกตามหา และได้มาพบ พ.ท.นิคม ผู้เสียชีวิต ในที่เกิดเหตุบนชั้น 4 ของแฟลตดังกล่าว ภายหลังแพทย์เวน ร่วมกับตำรวจร้อยเวร สภ.เมืองยโสธร ชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิต ได้มอบศพให้ญาติ พ.อ.ณัฏฐ์ ศรีอินทร ผบ.ร.16 บุตรเขยนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศล วัดนารอบ เขตเทศบาลนครศรีธรรมราช
ที่มา>>>ข่าวสด

อึ้ง!! นักท่องเที่ยวจีน โดนเก็บค่าแท็กซี่ พญาไท-สามเสน 2,540 บาท แฉกลโกง

กรณีแท็กซี่โดยสาร คิดค่าบริการไม่เป็นไปตามจริง เห็นได้บ่อยครั้ง ซึ่งครั้งนี้ จ.ส.100 ได้นำเรื่องการร้องเรียนครั้งนี้มาเปิดเผย โดยระบุว่า “เจ้าหน้าที่โรงแรมร้องเรียนแทนนักท่องเที่ยว ชาวจีน 4 คน ขึ้น TAXI สีเขียวเหลือง จาก แอร์พอร์ตลิ้งค์พญาไท ไปลงที่โรงแรมธาราเพลส ถ.สามเสน ถูกเรียกเก็บค่าโดยสารจำนวน 2,540 บาท ขณะนี้ได้จดหมายเลขทะเบียนแจ้งเอาผิดที่กรมการขนส่งทางบกแล้ว และหากผู้โดยสารถูกหลอกลวงกรณีแบบนี้ให้จดจำหมายเลขทะเบียนและแจ้งที่กรมการขนส่งทางบกได้ที่โทร 1584 ตลอด 24 ชม.”โดยผู้ขับแท็กซี่อีกคันที่ได้ฟังการร้องเรียนผ่านจส.100 ได้เปิดเผยว่าตัวเลข 2540 นี้คือรหัสของรถแท็กซี่ ที่กรมการขนส่งฯ  ตั้งไว้ประจำรถแท็กซี่ทุกคันเพื่อใช้ตรวจสอบมิเตอร์รถ  คนขับสามารถกดปุ่มบนจอเพื่อเปิดตัวเลขนี้ขึ้นมาหลอกลวงผู้โดยสารต่างชาติแทนค่าโดยสารจริงได้
ที่มา>>>ข่าวสด

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559

ได้ยินเสียงแมวร้อง!! ชาวบ้านรีบแจ้งกู้ภัย ระดมงัดฝาท่อระบายน้ำช่วยลูกแมว 2 เดือนรอด!

เมื่อเวลา 22.20 น.วันที่ 27 ก.ย. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานจังหวัดเพชรบุรี ได้รับแจ้งจากประชาชน ว่าได้ยินเสียงแมวร้องอยู่ในท่อระบายน้ำ คาดว่าแมวน่าจะลงไปติดอยู่ บริเวณหน้าอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯพระนครคีรี ตำบลคลองกระแชง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ภายหลังรับแจ้งจึงจัดกำลังพร้อมอุปกรณ์รุดไปตรวจสอบเมื่อไปถึงได้ยินเสียงแมวส่งเสียงร้องดังอยู่ภายในท่อระบายน้ำ จึงช่วยกันออกแรงใช้แชลงงัดฝาท่อปูนซีเมนต์ ซึ่งมีน้ำหนักมากให้เปิดออกนานกว่า 10 นาที ถึงสามารถเปิดออกได้สำเร็จ ก็พบลูกแมวสีน้ำตาลอ่อน อายุประมาณ 2 เดือนอยู่ในอาการตื่นตกใจ จากนั้นลงไปนำขึ้นมาล้างตัว คาดลูกแมวน่าจะมุดเข้าบริเวณปากท่อระบายน้ำจุดใดจุดหนึ่ง ก่อนเดินเข้ามาอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งหน่วยกู้ภัยจะได้นำไปเลี้ยงดูแล แต่หากมีผู้มาขอรับไปเลี้ยงก็จะมอบให้ไปดูแลต่อไป201609272230464-20021028190439
ที่มา>>>ข่าวสด

รถบรรทุกพลิกคว่ำบนถนนราชพฤกษ์ ขาออก ช่วงทางขึ้นสะพานข้ามแยกถนนเพชรเกษม

เมื่อเวลา 00.10 น.วันที่ 28 ก.ย.59 พ.ต.ต. ภมร โพธิ์ขาว สว.(สอบสวน)สน.บางขุนเทียน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพลิกคว่ำบนถนนราชพฤกษ์ ขาออก ช่วงทางขึ้นสะพานข้ามแยกถนนเพชรเกษม แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตพบรถบรรทุก 10 ล้อบรรทุกน้ำ สีน้ำเงิน ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 51-9201 กรุงเทพมหานคร พุ่งข้ามเกาะ พลิกตะแคงขวางถนนราชพฤกษ์ ขาออก ทุกช่องทาง ทางเจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจร ให้รถเบี่ยงออกทางขนาน ก่อนประสานรถยกมาทำการเคลื่อนย้าย
สอบสวนนายวงศกร แก้วอินทร์ อายุ 41 ปี คนขับซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ให้การว่าก่อนเกิดเหตุขับรถบรรทุกน้ำมาจากย่านจรัลสนิทวงค์ เพื่อไปส่งที่ ม.จุฬาฯ โดยใช้เส้นทางถนนราชพฤกษ์ ขาเข้าขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุเป็นช่วงโค้งลงสะพาน จึงพยายามชะลอรถเพื่อลดความเร็ว แต่เนื่องจากฝนตกทำให้ถนนลื่นประกอบกับเป็นทางโค้ง ทำให้ รถเสียหลักแล่นข้ามเกาะกลางก่อนพลิกตะแคงขวางถนน โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีรถแล่นสวนมา
ด้านพ.ต.ต.ภมร กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานรถยกเพื่อมาทำการเคลื่อนย้ายรถออกจากจุดเกิดเหตุเพือ่เปิดการจราจร ส่วนคนขับรถแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาท ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จึงเคลื่อนย้ายรถออกจากจุดเกิดเหตุ เปิดการจราจรได้เป็นปกติ
ที่มา>>>ข่าวสด

วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559

เครียดชีวิต!นักท่องเที่ยวสวีเดนผูกคอดับคาห้องพักโรงแรมหรูภูเก็ต


อ.ชาญณรงค์ ประคองเอื้อ รอง สว.(สอบสวน) สภ.กมลา จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติผูกคอตายภายในห้องพักโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงพร้อมด้วยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ประจำพื้นที่หาดป่าตองและหน่วยกู้ภัย อบต.กมลา รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมหรู 4 ชั้น บริเวณห้องพักชั้นล่าง หน้าห้องน้ำพบศพชายชาวต่างชาติสวมชุดคลุมอาบน้ำสีขาว ใช้เชือกไนล่อนผูกกับขอบสแตนเลสประตูแล้วคล้องกับคอ แต่เท้าทั้ง 2 ขาตั้งแต่หัวเข่าสัมผัสกับพื้นห้องน้ำ ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือร่องรอยการต่อสู้ ทราบชื่อคือ นายแฮมเรน ลาร์สสัน แอนเดอร์ เฟรดดิ้ง อายุ 47 ปี สัญชาติสวีเดน สภาพศพเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง จึงนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.ป่าตอง
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายแฮมเรนพักอาศัยอยู่ที่ห้องดังกล่าวมาราว 1 สัปดาห์แล้ว ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าผู้ตายอาจเครียดปัญหาชีวิตส่วนตัว จึงตัดสินใจผูกคอตายในที่สุด อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง
ที่มา>>>ข่าวสด

เครียดชีวิต!นักท่องเที่ยวสวีเดนผูกคอดับคาห้องพักโรงแรมหรูภูเก็ต


อ.ชาญณรงค์ ประคองเอื้อ รอง สว.(สอบสวน) สภ.กมลา จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติผูกคอตายภายในห้องพักโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงพร้อมด้วยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ประจำพื้นที่หาดป่าตองและหน่วยกู้ภัย อบต.กมลา รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมหรู 4 ชั้น บริเวณห้องพักชั้นล่าง หน้าห้องน้ำพบศพชายชาวต่างชาติสวมชุดคลุมอาบน้ำสีขาว ใช้เชือกไนล่อนผูกกับขอบสแตนเลสประตูแล้วคล้องกับคอ แต่เท้าทั้ง 2 ขาตั้งแต่หัวเข่าสัมผัสกับพื้นห้องน้ำ ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือร่องรอยการต่อสู้ ทราบชื่อคือ นายแฮมเรน ลาร์สสัน แอนเดอร์ เฟรดดิ้ง อายุ 47 ปี สัญชาติสวีเดน สภาพศพเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง จึงนำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.ป่าตอง
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายแฮมเรนพักอาศัยอยู่ที่ห้องดังกล่าวมาราว 1 สัปดาห์แล้ว ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าผู้ตายอาจเครียดปัญหาชีวิตส่วนตัว จึงตัดสินใจผูกคอตายในที่สุด อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง
ที่มา>>>ข่าวสด

สลดกระบือ 5 ตัวถูกรถชนตาย 1 สาหัส 2 ตัว – ย่านลำลูกกา

เมื่อเวลา22.00 น.วันที่ 26 กันยายน 2559 ศูนย์วิทยุมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรลำลูกกา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีฝูงกระบือ 5 ตัวถูกรถยนต์ชนเสียชีวิตจำนวนหลายตัว บริเวณถนนหลังวัดทำเลทอง หมู่ที่ 11 ตำบลบึงทองหลาง อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จึงรุดตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ และให้การช่วยเหลือกลางสายที่ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ที่เกิดเหตุพบฝูงกระบือจำนวน 5 ตัวได้ถูกรถชนเสียชีวิตคาที่ 1 ตัวและสาหัสอีก 2 ตัว ส่วนอีก2ตัวนั้นยังคงยืนรออย่างไม่ห่างจากที่เกิดเหตุโดยเห็นกระบือทั้ง 2 ตัวมันยืนอยู่ใกล้ๆเห็นภาพแล้วต่างพากันสลดใจเมื่อมันคงรู้ว่าฝูงกระบือที่มาด้วยกันได้ถูกรถชนเสียชีวิตและได้มีชาวบ้านขับรถบรรทุกแผ่นปูนซึ่งเป็นรถเฮียบที่มีอุปกรณ์การยกแผ่นปูนผ่านมาที่เกิดเหตุได้นำกระบือทั้งสองตัวขึ้นรถนำไปไว้ที่สภ. ลำลูกกาโดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงส่วนที่เหลืออีก 3 ตัวพยายามจากขึ้นรถและเดินรอบรอบไม่ห่างจากฝูงและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามหาเจ้าของกระบือกับรถที่ชนมาสอบถามเพิ่มเติมต่อไป.
ที่มา>>>ข่าวสด

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559

เด็กเล่นสไลเดอร์ฝายน้ำล้น…แล้วจมน้ำเสียชีวิต


เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 25 ก.ย. 59 ร.ต.อ.ศิริ พิลาคุณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองหญ้าปล้อง อ.วังสะพุง จ.เลย ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีเหตุเด็กเล่นน้ำถูกน้ำวนดูดเสียชีวิต ที่ฝายน้ำล้น บ้านขอนยาง หมู่ 9 ต.โคกขมิ้น อ.วังสะพุง จ.เลย เมื่อรับแจ้งจึงพร้อมแพทย์จาก รพ.วังสะพุง พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิสว่างคีรีธรรม จุดหนองหญ้าปล้อง เดินทางไปชันสูตรศพ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชาย ทราบชื่อ ด.ช.สุรวิชญ์ สิงห์ขรอาจ อายุ 12 ปี หรือน้องไฟท์ ชาวต.โคกขมิ้น อ.วังสะพุง จ.เลย เป็นนักเรียนโรงเรียนชั้น ป.6 ร.ร.บ้านป่าบง จากการสอบถามนายกฤษฎา เพื่อนหมู่บ้านเดียวกันเล่าว่า ช่วงเช้าเวลา 11.00 น.ได้ชวนกันมาเล่นน้ำที่ฝายน้ำล้นด้วยกัน 5 คน โดยทยอยตามกันมาลงไปที่ฝายน้ำล้น แล้วสไลเดอร์ลงมา โดยผู้ตายสไลด์เป็นคนสุดท้าย ส่วนพวกที่สไลด์ลงมาก่อนต่างว่ายขึ้นฝั่ง คอยนั่งเชียร์ ปรากฏว่า ผู้ตายสไลด์ลงมาแล้วแต่ไม่เห็นโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ จนเวลาผ่านไปเกือบ 10 นาที ร่างผู้ตายไหลไปโผล่ห่างจากฝายน้ำล้น 50 เมตร เพื่อนได้ตะโกนเรียกชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วยกันปฐมพยาบาลด้วยการผายปอดอยู่นาน แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้
ที่มา>>>ข่าวสด

นักท่องเที่ยวสาวญี่ปุ่นเข้าแจ้งความถูกหนุ่มเจ็ทสกีเกาะล้านข่มขืน – เจ้าตัวปฏิเสธ

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 25 ก.ย. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. ได้นำกำลังจับกุมตัว นายนะ อายุ 34 ปี อาชีพประกอบการเจ็ทสกีบนเกาะล้าน หลังมีผู้เสียหายเป็นนักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่นมาแจ้งความไว้กับตำรวจว่าถูกชายคนดังกล่าวข่มขืนกระทำชำเรา
สืบเนื่องจากวันที่ 24 กันยายน 2559 ผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นได้เดินทางไปพักผ่อนและใช้บริการเช่าเรือเจ็ทสกีของนายนะ ก่อนมีการพูดคุยกันและได้เช่ารถ จยย.ขับขี่ท่องเที่ยวรอบเกาะ โดยทั้งสองได้ดื่มกินกันก่อนจะมีเพศสัมพันธ์กัน ต่อมานักท่องเที่ยวสาวคนดังกล่าวเข้าแจ้งความว่าถูกข่มขืน
สอบสวนความนายนะ ให้การอ้างว่า ยอมรับว่ามีเซ็กส์กับนักท่องเที่ยวแต่ไม่ได้ลงมือข่มขืนนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด ทั้งหมดเป็นความยินยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่าย เนื่องจากดื่มกินกันตั้งแต่กลางวันจนเมาได้ที่แล้วเกิดอารมณ์ จึงแวะข้างทางในที่ลับตาคนก่อนมีเพศสัมพันธ์จนเสร็จกิจไปหนึ่งครั้ง ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนเจ้าหน้าที่เดินทางมาจับกุมที่บ้านพักดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ประกอบสำนวน ก่อนควบคุมตัวนายนะ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เบื้องต้นได้กล่าวหาว่าข่มขืนและกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาตน ก่อนนายรัตนะจะยื่นต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมตามลำดับต่อไป
ที่มา>>>ข่าวสด

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2559

ย่าผูกคอตายต่อหน้าหลานวัย 3 ขวบ สลด!หนูน้อยโบกมือเรียกให้คนช้วย แต่สายไปแล้ว

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 21 ก.ย. ร.ต.อ.ชนาธิป โอ่งเคลือบ ร้อยเวร สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิตอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในอ.เมือง จ.สมุทรสงคราม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม นพ.ธราธิป กระแสร์ลาภ แพทย์เวร รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบศพนางสายทอง ยุติมิตร อายุ 61 ปี เจ้าของบ้าน สวมเสื้อลายดอกแขนสั้น นุ่งกางเกงขายาวลายสก๊อต ซึ่งถูกญาตินำศพลงมานอนที่พื้นบ้าน บนขื่อบ้านพบเชือกไนล่อนผูกอยู่มีร่องรอยการถูกตัด คาดว่าเพิ่งเสียชีวิต มีบุตรชายร้องไห้อยู่ไม่ห่าง
นางขนิษฐา พงษ์เจริญ อายุ 56 ปี เพื่อนบ้านผู้ตาย ให้การว่า เดิมนางสายทองมีอาชีพค้าขายที่ตลาดกลางบางแก้ว ช่วง 2 ปีก่อนสามีเสียชีวิต ประกอบกับอายุมากจึงเลิกขายกลับมาเลี้ยงหลานอายุประมาณ 3 ขวบที่บ้านพักตามลำพัง ซึ่งลูกชายทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งจะแวะมาเยี่ยมเยียนและดูแลเป็นประจำ
เมื่อ 2 วันก่อนนางสายทองเพิ่งบ่นคิดถึงสามี ซึ่งวันนี้ช่วงเที่ยงตนยังเดินมาทักทายนางสายทองตามปกติ กระทั่งก่อนเกิดเหตุตนเห็นหลานของผู้ตายพยายามเอามือโผล่ออกมาทางช่องว่างของฝาบ้าน และร้องไห้ดังผิดสังเกต เหมือนจะเรียกใคร จึงรีบเข้ามาดูในบ้านก็พบร่างนางสายทองห้อยโตงเตงด้วยเชือกไนล่อนที่ผูกกับขื่อบ้าน จึงเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยกันนำร่างของนางสายทองลงมานอนที่พื้นและแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือก็แต่ไม่ทันนางสายทองเสียชีวิตไปแล้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากอาการซึมเศร้าในวัยชรา และคิดถึงสามี จึงตัดสินใจผูกคอตายตามสามี โดยมีหลานวัยเพียง 3 ขวบนั่งดูเหตุการณ์ตลอด และพยายามจะช่วยโดยการใช้มือโผล่ทางช่องฝาบ้านโบกมือเรียกเพื่อนบ้านเข้ามาช่วย แต่ก็ไม่ทันการ นางสายทองเสียชีวิตไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้สถาบันนิติเวชชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
ที่มา>>>ข่าวสด

วุ่นทั่วพัทลุง! กล่องลึกลับโผล่ศาลาผู้โดยสาร จนท.ปิดถนนยิงทำลาย-ที่แท้กะปิ

ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงานว่า เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 21 ก.ย  ร.ต.อ.อรรถพล  สายทองแก้ว ร้อยเวร สภ.โคกชะงาย อ.เมือง จ.พัทลุง รับแจ้งพบกล่องโฟมสีขาวบรรจุสิ่งของไว้ภายใน วางทิ้งไว้บริเวณที่นั่งในศาลาที่พักผู้โดยสาร ริมถนนเพชรเกษม บ้านนากวด หมู่ที่7 ต.นาท่อม อ.เมือง จ.พัทลุง จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด201609220612042-20041020080146ที่เกิดเหตุบริเวณที่นั่งในศาลาที่พักผู้โดยสาร พบกล่องโฟมสีขาว ภายในบรรจุสิ่งของหนัก 5 กก. และมีเทปกาวสีน้ำตาลพันรอบกล่อง ด้านข้างยังมีเบอร์โทร.ติดไว้ชัดเจน เจ้าหน้าที่พยายามโทร.หาเจ้าของตามเบอร์โทรศัพท์ แต่เจ้าของกลับปฏิเสธไม่รู้เห็น เจ้าหน้าที่จึงปิดถนนเพชรเกษมช่วงพัทลุงตรัง ทั้งขาขึ้นและขาล่อง ก่อนที่ใช้เครื่องมือยิงทำลาย ซึ่งปรากฏว่าภายในกล่องเป็นกะปิ หนัก 5 กก.  ถูกส่งมาจากต่างจังหวัด โดยมีผู้คนนำมาวางลืมทิ้งไว้201609220612043-20041020080146
ที่มา>>>ข่าวสด

วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

แค่เมียท้อง4เดือนคุยไม่รู้เรื่อง ผัวโหดซ้อมจนน่วม-นอนซมอยู่3วัน ก่อนเป็นศพตายทั้งกลม

วันที่ 20 ก.ย. พ.ต.ท.ชาติชาย ชายเพชร สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี พร้อมตำรวจชุดสืบสวนและกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี เดินทางตรวจสอบบ้านพักคนงานกลางสวนผลไม้ ไม่มีเลขที่ ม.5 ซ.ร่วมมิตร ต.ทุ่งเบญจา หลังรับแจ้งพบศพหญิงสาวนอนเสียชีวิตภายในห้อง โดยตามร่างกายมีร่องรอยฟกช้ำหลายแห่ง เกรงว่าจะถูกทำร้ายจนเสียชีวิตจากการตรวจสอบภายในห้องนอนพบศพนางมิก ชาวลาว ที่กำลังตั้งครรภ์ 4 เดือน สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้น สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง กางเกงกีฬาขายาวสีเทา ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง คาดเกิดจากถูกทำร้ายทุบตี นอกจากนี้ยังพบบริเวณขมับด้านซ้าย มีร่องรอยเหมือนถูกตีด้วยของแข็งจนเป็นแผลแตก และยังมีคราบเลือดติดอยู่ จนไหลติดกับหมอนที่หนุน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายเอก ลำมะโค อายุ 32 ปี ชาวลาวและสามีผู้ตาย มาสอบสวนและพบท่าทางมีพิรุธ ก่อนยอมเปิดปากรับสารภาพว่าลงมือโหดทำร้ายเมียที่ตั้งท้องจนเสียชีวิต
โดยนายเอก ให้การยอมรับว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเกิดมีปากเสียงทะเลาะกับเมียที่กำลังตั้งท้องประมาณ 4 เดือน เพียงแค่เรื่องที่พูดคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง จึงเกิดอารมณ์โมโหแล้วลงมือตบตีทำร้ายร่างกาย จนทำให้นางมิกได้รับบาดเจ็บ ก่อนให้นอนพักอยู่ในห้อง จนมาเมื่อช่วงเย็นวันนี้ ตนเห็นว่านางมิกอาการยังไม่ดีขึ้น จึงออกไปซื้อยามาให้ แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านและเดินไปปลุกให้ลุกขึ้นมากินยา พบว่านางมิกได้เสียชีวิตแล้ว จึงได้รีบไปบอกให้เพื่อนคนงานแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ขณะที่เพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่า สองผัวเมียคู่นี้มักมีปากเสียงทะเลาะและทุบตีกันจนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งส่วนใหญ่นายเอกจะเป็นคนลงมือทำร้ายภรรยา ซึ่งเพื่อนบ้านเองก็รู้สึกสงสาร เนื่องจากทราบกันอยู่แล้วว่านาง มิกกำลังตั้งท้อง แต่ไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือเกรงว่าจะถูกนายเอกทำร้าย
ที่มา>>>ข่าวสด

หนุ่มช็อก!! กลับห้องเจอแฟนสาวนศ.ปี1สถาบันดังเป็นศพ สลดข้อความสุดท้ายก่อนตาย

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 20 ก.ย. พ.ต.ท.ประสิทธิ์ แก้วกิ้ม สว. (สอบสวน) สภ.ขุนทะเล รับแจ้งเหตุ พบผู้เสียชีวิตภายในห้องเช่า ซอยสายตรี หมู่ 9 ต.ขุนทะเล อ.เมือง สุราษฎร์ธานี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพิสูจน์หลักฐาน 8 และกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี 201609201710225-20050615140928-horzที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวแบ่งเช่า จำนวน 3 ห้อง เหตุเกิดห้องที่ 3 พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.วรรฑณ ศรีน้อย อายุ 19 ปี ชาว จ.นราธิวาส นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะมนุษยศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ได้ใช้ผ้าขาวม้าผูกกับเหล็กดัดหน้าต่าง โดยมีเลือดไหลหยดตรงบริเวณฝาผนัง
 จากการสอบถาม นายณรงค์ฤทธิ์ อายุ 20 ปี เพื่อนชายผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนเองและเพื่อนเจ้าของห้องดังกล่าว เดินทางออกจากห้องเช่าเพื่อไปเที่ยว อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช โดยผู้ตายซึ่งเป็นแฟนสาว พักอยู่ที่ห้องตามลำพัง จากนั้นตนได้ติดต่อกลับมาหาผู้ตาย ในช่วงเย็นวันเดียวกัน แต่ไม่มีคนรับสาย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เมื่อเกิดการทะเลาะผิดใจกันจากนั้นตนและเพื่อนเจ้าของห้อง ได้เดินทางกลับมา ก็ต้องตกใจเมื่อพบศพผู้ตาย เมื่อเวลา 14.40 น. วันนี้ ทั้งนี้จากการสอบสวนเจ้าของห้องเช่าไม่ได้ยินเสียงใดๆ และภายในห้องไม่มีการรื้อค้นข้าวของใดๆอีกทั้งการชันสูตรเบื้องต้นไม่พบบาดแผลตามร่างกาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเฟซบุ๊ก นักศึกษาสาวผู้ตาย ได้เข้าไปอัพเดตประวัติของตัวเองเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา ก่อนเสียชีวิตด้วยว่า “ถ้ากุเป็นคนอื่นก็คงจะดีไปหมด อะไรที่เป็นกุ ไม่ชอบสักอย่าง” แถมยังมีข้อความตัดพ้อถึงชีวิตครอบครัวที่มีปัญหา พูดกับใครไม่ได้อีกด้วย201609201710224-20050615140928%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%9e%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%95
ที่มา>>>ข่าวสด

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559

วงการเลขเด็ดตะลึง! ป้ายบอกทาง ออกตรงๆ 3 งวดแล้ว รอลุ้นงวดหน้า?

เป็นที่ฮือฮาในวงการเลขเด็ดเลยทีเดียว เมื่อ @Kamon Pongkan และ YouLike(คลิปเด็ด) ได้โพสต์ภาพป้ายทางหลวง ซึ่งบอกเลขกิโลเมตร แต่บังเอิญว่ามี 3 ตัวเลขในป้ายนั้นตรงกับเลขท้าย 2 ตัว 3 งวดติด โดยป้ายระบุว่า มุกดาหาร 33 ซึ่งตรงกับเลขท้าย 2 ตัว งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2559 ถัดมา อ.ธาตุพนม 84 ตรงกับเลข 2 ตัวท้ายรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 กันยายน 2559 ขณะที่ อ.เลิงนกทา 50 ตรงกับเลข 2 ตัวท้ายรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 16 กันยายน 2559
คราวนี้คงต้องลุ้นกันหนัก เพราะป้ายสุดท้ายเขียนไว้ว่า “อำนาจเจริญ 90” ไม่รู้ว่าเลขท้ายงวด 1 ตุลาคมนี้จะออกมาตรงหรือไม่
ที่มา>>>ข่าวสด

หนุ่มโพสต์วอนเห็นใจ โดนตร.ถีบจยย.ล้มจนบาดเจ็บ ผกก.โต้ทันทีเมาแล้วขับแหกด่าน

แชร์ว่อน หนุ่มโพสต์ร้องทุกข์โดนตำรวจตั้งด่านถีบขยย.ล้มจนบาดเจ็บสาหัส โดยผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ โบโบ้ ซัง ได้โพสต์งว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อโบ้ ผมอยากจะร้องขอความเป็นธรรม ให้ทุกคนได้รับรู้ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดมาก ก็ผมขับรถไปเจอด่านสภ…….เวลา 01.00 น.กว่าคับ ผมไปส่งเพื่อนกลับบ้าน ผมเห็นด่าน แต่จอดไม่ทัน โดนตำรวจถีบจนล้ม อาการสาหัส ไหปลาร้าหัก แขนหัก แต่เพื่อนของผม ไม่ทราบว่าเค้าทำอะไรผิด เค้าได้หนีไป ซึ่งผมเองไม่ได้รู้เรื่องอะไร ผมกับโดนจับเมาแล้วขับ14407731_10210161706057438_2103586985_nแต่ผมทราบดีว่าผมผิด ผมไม่ได้ทำผิดถึงกับฆ่าคนตาย ผมลุกขึ้นไม่ไหว ตำรวจได้เตะผมและสั่งให้ผมยกรถขึ้น แต่ผมลุกไม่ขึ้น ตำรวจพาไปโรงบาลเอกชนที่แพงผมไม่มีเงินจะเสีย หมอบอกให้ผมไปหาโรงบาลรัฐบาล จะได้เสียน้อยหน่อย แต่ตำรวจกับพาผมไปโรงพักแทน และเรียกเงินผม 15,000 ให้มาประกันในโรงพัก ซึ่งพี่สาวผมหาไม่ได้ แต่ขอให้พาผมไปโรงบาลก่อน
แต่ตำรวจไม่ยอมแล้วจับผมส่งพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนบอกว่าอำนาจอยู่กับคนจับ ไม่ยอมให้กับผมไปหาหมอ ผมปวดมาก ผมเป็นคนไม่ใช่สัตว์ ผมไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยอยากจะให้ทุกคน ช่วยกันแชร์ให้ ประชาชนทุกคนได้รับรู้ ตำรวจ…. ทำกับผมแบบนี้ (คำพูดทั้งหมดผมสาบานได้ ว่าเป็นคำพูดสัจจริง)”
ด้าน พ.ต.อ.อริยะ พันธ์ฟัก ผกก.สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุได้สั่งให้พ.ต.ท.ปฏิพล ดิษสลุง ตั้งด่านตรวจความหมั่นคงและความปลอดภัยบริเวณโค้งทางที่จะแยกไปสระบุรี ระหว่างนั้นผู้โพสข้อความได้ขับรถจักรยานยนต์คันเล็กๆ มากัน 2 คน โดยทั้งสองคนเมาแอ๋กันมาทั้งคู่ และได้เล่นพิเรนทร์โดยให้คนซ่อนท้ายเป็นคนจับแฮนรถและบิดคันเร่งทำหน้าที่แทนคนขับ พอมาถึงที่บริเวณจุดตั้งด่านตรวจเจ้าที่ตำรวจก็ได้เรียกจอด ในขณะนั้นมีรถกระบะจอดอยู่ด้านหน้า 1 คัน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจเหมือนกัน
ผู้โพสต์ข้อความได้บิดคันเร่งแหกด่านตรวจพอหลุดจากตำรวจรถจักรยานยนต์ก็จะพุ่งไปชนคนขับรถกระบะที่ถูกตำรวจเรียกลงมาตรวจข้างรถ พอคนขับรถกระบะที่ยืนคุยอยู่กับตำรวจเห็นรถจักรยานยนต์พุ่งเข้ามา จึงได้กระโดดเอาเท้าถีบผู้เสียหายจนรถจักรยานยนต์ล้มลง หลังจากผู้เสียหายรถจักรยานยนต์ล้มลง เพื่อนผู้เสียหายที่เป็นคนบิดคันเร่งได้วิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทางเจ้าที่ตำรวจได้ตามจับตัวมาได้ ค้นตัวไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้แจ้งรถกู้ชีพมารับตัวผู้บาดเจ็บส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเปาโล ซึ่งผู้บาดเจ็บที่เป็นคนโพสต์ข้อความยังได้บอกยอมรับกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผมบอกกับเพื่อนผมแล้วว่าอย่าบิด อย่าบิด แต่เพื่อนผมไม่ฟังจนทำให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น และในบริเวณที่เกิดเหตุยังมีวินรถจักรยานยนตร์รับจ้าง เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่าทางเจ้าที่ตำรวจไม่ได้มีการซ้อมหรือทำร้ายผู้บาดเจ็บตามที่โพสซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมา 2-3 วันแล้ว
พ.ต.อ.อริยะยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการซ้อมผู้เสียหายตามที่ผู้เสียหายโพสต์แต่อย่างใด การกระทำดังกล่าวของผู้บาดเจ็บที่โพสต์แบบนั้น มีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ เพราะทำให้ชื่อเสียงของตำรวจเสียหาย
ที่มา>>>ข่าวสด

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559

ยังไม่หยุดค้นหา ยอดตายพุ่งแล้ว 13 ราย ชี้เหตุกระแสน้ำแรงหลบเรือเหล็กชนแพ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 ก.ย. พ.ต.ต.ธนัท แสงอรุณ สารวัตร สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเรือโดยสารล่มภายในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าน้ำหน้าวัดสนามชัย ม.9 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยนายเรวัต ประสงค์ รองผวจ. พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา มูลนิธิพุทไธสวรรย์
พบเรือโดยสารสีขาวสองชั้นจมอยู่ครึ่งลำ ผู้โดยสารที่มากับเรือต่างพากันหนีตายออกจากเรือที่กำลังจะจม เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือขึ้นจากน้ำ ปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตกันจ้าละหวั่น ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา กว่า 30 ราย โดยการช่วยเหลือต้องแข่งกับกระแสน้ำไหลเชี่ยวแรง จากคำให้การของผู้ที่รอดชีวิตที่มากับเรือโดยสารดังกล่าว ทราบว่ายังมีผู้ที่ติดอยู่ในเรือ เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการค้นหา พบผู้เสียชีวิตจำนวน 8 ราย ติดค้างอยู่ในเรือ ส่วนที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา พบว่า เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจำนวน 5 ราย เป็นหญิง 4 ราย ชาย 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 38 ราย อย่างไรก็ตาม ยอดผู้เสียชีวิตยังไม่นิ่ง201609181905243-20160711155708สอบสวนนายเอนก เย็นภูเขา ยุ 47 ปี ผู้ที่โดยสารมากับเรือ เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมด้วยพี่น้องชาวมุสลิม สองมัสยิด จาก ต.สำเภาร่ม ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งหมดโดยสารเรือ เรือจำนวน 15 ลำ เพื่อพบปะสังสรรค์กันเป็นประเพณีที่ถือปฎิบัติกันมาเป็นเวลานาน ตั้งแต่ช่วงเช้าจะร่องเรือจากมัสยิดอีกตำบลไปยังอีกตำบล เรือลำเกิดเหตุโดยสารมากันประมาณ 50 คน มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุมีเรือบรรทุกสินค้าวิ่งสวนทางมา เรือเกิดเสียหลักพุ่งชนกับแพท่าน้ำจนเรือค่อยจมลงจากนั้นต่างคนก็พากันหนีตายโดยสวมเสื้อชูชีพบ้างไม่สวมบ้าง ตลอดเส้นทางคนขับเรือมักจะแซงขบวนเรือที่วิ่งตามกันมาตอลดทาง ตนเองยังวิตกอยู่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุจนมาเกิดเหตุจนได้
สอบสวนนายวิรัตน์ ชัยศิริกุล อายุ 60 ปี คนขับเรือ เปิดเผยว่า เมื่อขับเรือมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีกระแสน้ำไหลแรง มีเรือบรรทุกสินค้าวิ่งสวนทางมาเป็นช่วงทางโค้งท้ายของเรือพุ่งเข้ามาจึงพยามจะหลบกระแสน้ำไหลทำให้บังคับเรือไม่ได้พุ่งเขาชนแพท่าน้ำจนเรือจมลง201609181700443-20160711155708พ.ต.อ.สุรพงค์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นขณะนี้จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตยังไม่ชัดเจออยู่ระหว่างทำการตรวจสอบข้อมูลเพราะบางคนขึ้นเรืออีกลำและมีการจอดแวะสถานที่ต่างๆ ก็ลงเรืออีกลำ ส่วนสาเหตุต้องรอสอบสวนประชาชนที่อยู่ในเรือ และผู้เห็นเหตุการณ์ ส่วนเรือบรรทุกสินค้าที่อ้างอยู่ระหว่างประสานทางกรมเจ้าท่าพระนครศรีอยุธยา ให้ติดตามมาสอบสวน
ที่มา>>>ข่าวสด

สุดเวทนา!! แม่วัยรุ่นทิ้งลูกสาวขวบเดียวไว้ที่โรงแรม ก่อนหายตัวไปกับผู้ชาย-แม่บ้านแฉ

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 ก.ย. ร.ต.อ.อิสระ แสงสว่าง ร้อยเวร สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่า มีเด็กถูกทิ้งไว้ในโรงแรมสุขสวัสดิ์เกรดเฮ้า ตั้งอยู่ เลขที่127/10 หมู่ที่ 13 ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยหลังรับแจ้ง จึงประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูไปยังจุดเกิดเหตุ แยกจากถนนสุขสวัสดิ์เข้าซอยหมู่บ้านสุขสวัสดิ์นิเวศน์ไปประมาณ 500 เมตร ด้านซ้ายมือ พบโรงแรมดังกล่าวเป็นอาคารสูงสองชั้น โดยชั้นล่างของตัวอาคารห้องที่ 3 พบเด็กหญิงวัยเพียง 1 ขวบ นั่งอยู่บนเตียงนอน โดยมีแม่บ้านของโรงแรมคอยดูแลอย่างใกล้ชิด201609182011012-20041020105821จากการสอบถามนางทองหลา อายุ 50 ปี ทราบว่า หลังจากที่ตนมาเข้าเวรของช่วงเช้าวันนี้ ได้รับทราบจากเพื่อนร่วมงานว่า ในช่วงเวลา 01.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา มีหนุ่มสาวสองคนพร้อมด้วยเด็กเข้ามาเปิดห้องพักชั่วคราว จนกระทั่งเวลา 04.00 น. ซึ่งหมดเวลาเข้าพัก ทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมจึงเข้าไปตรวจสอบภายในห้องเพื่อทำความสะอาดห้อง แต่ปรากฏว่าไม่พบหนุ่มสาว โดยทั้งคู่ได้ออกจากห้องไปแล้ว แต่ได้ทิ้งลูกสาวไว้ในห้อง โดยในเบื้องต้นทราบว่า หญิงสาวที่มาพัก จะมาพักที่โรงแรมเป็นประจำ ซึ่งส่วนใหญ่จะเปลี่ยนคู่นอนเป็นประจำ ไม่ค่อยซ้ำหน้า ซึ่งบางครั้งก็จะนำลูกน้อยมาด้วย โดยหลังเสร็จกิจก็จะนำกลับไป แต่มาครั้งนี้กลับทิ้งลูกน้อยไว้ภายในห้องเพียงลำพัง
ทางแม่บ้านจึงได้แจ้งไปยังนางกัณหา แก้วชูมา เจ้าของโรงแรมให้รับทราบ ต่อมานางกัณหาได้มาตรวจสอบที่โรงแรมจนถึงเวลา 10.00 น. ก็ไม่มีทีท่าของแม่เด็กว่าจะมารับลูก จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการติดตามแม่เด็กมารับลูกคืนไป ในขณะเดียวกันโรงแรมก็ไม่สะดวกที่จะรับเด็กไว้เลี้ยง จึงได้นำเด็กไปเลี้ยงไว้ชั่วคราวที่บ้านพักซอยหมอบาง ย่านพระสมุทรเจดีย์ เพื่อเห็นแก่มนุษยธรรม อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังสอบสวนเบื้องต้นจะได้ดำเนินการติดตามคุณแม่รายนี้มาสอบปากคำ หากพบว่ามีเจตนาทิ้งลูกก็จะดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ที่มา>>>ข่าวสด

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2559

ลอบวางบึ้มรถครูที่โคกโพธิ์กลางดึก รถพังยับรอดตายหวุดหวิด

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ร.ต.ท.สุข์วัฒน์ ไชยมณี รอง สว.สอบสวน สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุ มีคนร้ายลอบวางระเบิดถูกรถกระบะเสียหาย เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา บริเวณบ้านโพธิ์ ม.2 ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ201609170717541-20160216143312ที่เกิดเหตุเป็นถนนชนบทห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 1 กิโลเมตร พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน บต2761 สงขลา สภาพพังเสียหาย กระจกหน้าแตก เบื้องต้นพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือนายสุขเกษม มูหะ ครูโรงเรียนบ้านนาค้อเหนือ โชคดีที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย201609170717543-20160216143312นายสุขเกษม กล่าวว่า ขณะที่กำลังจะขับรถเสร็จจากธุระได้ขับรถเดินทางกลับบ้านเดินทางคนเดียว เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้ระเบิดเข้าอย่างจังเสียงดังสนั่น แรงระเบิดทำให้รถด้านหน้าเสียหายอย่างหนักโชคดีที่รอดหวุดหวิด ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว แต่ตนยังคงหวาดผวาอยู่
ที่มา>>>ข่าวสด

แม่สุดทนลูกชายชวนเพื่อนจัดปาร์ตี้มั่วเสพยาในบ้าน แจ้งตร.ให้มาล็อกตัวดำเนินคดี

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 16 ก.ย. พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท นำกำลังตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดชลบุรี ตำรวจ สภ.หนองปรือ เข้าตรวจค้นบ้านพักในหมู่บ้านเอกมงคล 4 ซอยเขาตาโล ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนจับกุมตัวนายสุนทร หรือโจ๋ สุขพรหม อายุ 25 ปี ชาวจ.สุรินทร์ พร้อมของกลางกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 63 นัด ปลอกกระสุนหลายขนาดรวม 60 นัด และอุปกรณ์การเสพยาไอซ์
พ.ต.ต.ปิยะพงษ์ เปิดเผยว่า การจับกุมสืบเนื่องจากนางลลนา เคิร์ค อายุ 45 ปี ได้ทนพฤติกรรมของนายสุนทร ซึ่งเป็นลูกชายไม่ได้อีกต่อไป หลังชักชวนเพื่อนฝูงเข้ามามั่วสุมเสพยาเสพติดภายในบ้านพักอยู่เป็นประจำ ทำให้คนในครอบครัวและเพื่อนบ้านหวาดกลัวกลัวว่าวันใดเกิดเมายาอาจจะสติแตกทำร้ายบุคคลภายในครอบครัว จึงนำเบาะแสแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมลูกชายพร้อมของกลางไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ที่มา>>>ข่าวสด

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2559

“เจ้านิ่ม”สุนัขซื่อสัตย์อีกตัวยืนตากฝนหลายวันที่สกลนคร เจอเจ้าของแล้วรับกลับรักษาตัว

เรื่องราวของสุนัขซื่อสัตย์ตัวนี้ โพสต์โดยเพจ WATCHDOG THAILAND ระบุว่า น้ำใจ ชาวสกลนคร สืบเนื่องจากประชาชนในพื้นที่บ้านดอนเสาธง ได้แจ้งต่อสื่อเสนอภาพข่าวน้องหมาสีขาวหลงทางจากเจ้าของ พร้อมติดป้ายประกาศว่าน้องหมา มานอนรอเจ้าของมารับหลายวันแล้วนั้น
14354911_746092355531307_9214949429004830073_n
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. อาสาฯ WDT สกลนคร ได้ลงตรวจสอบพื้นที่ พบน้องหมาสีขาวนวล นอนซมอยู่ในพงหญ้า มีอาการอิดโรย ตัวสั่นด้วยพิษไข้ เนื่องจากนอนตากฝนมาหลายวัน และมีอาการบาดเจ็บขยับตัวไม่ได้ จึงประสาน เมตตาธรรมมูลนิธิ สกลนคร ให้ช่วยรับตัวเพื่อไปทำการรักษาเพื่อรอเจ้าของติดต่อมารับต่อไป
14359095_746092345531308_6990161161979042575_n
ในระหว่างที่รอกู้ภัยฯ มารับเพื่อนำส่งรักษานั้นพบว่า มีประชาชนหลายรายมาตรวจสอบว่าใช่น้องหมาของตัวเองที่หายไปหรือไม่ แต่น้องหมาไม่ได้แสดงอาการสนใจและต้องการขยับตัวหนีไปจากจุดนั้น
จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ได้มีประชาชน (ไม่ประสงค์ออกนาม) มาตรวจสอบว่าใช่น้องหมาของตัวเองหรือไม่ เนื่องจากเห็นในข่าวทีวีช่องหนึ่งในช่วงเช้า ปรากฏว่า น้องหมาได้ผงกหัวตามชื่อที่บุคคลนั้นเรียก ว่า “น้องนิ่ม” และยินยอมให้จับและอุ้มขึ้นมาจากพงหญ้าแต่โดยดี
ขณะที่บุคคลอีกหลายคนที่มาอ้างตัวเป็นเจ้าของน้องนิ่ม ไม่ยอมให้จับ ไม่ยอมให้อุ้ม และจะกัดอีกด้วยขณะนี้ “น้องนิ่ม” เจอเจ้าของแล้ว และรับตัวไปรักษาด้วยตนเอง ขอบคุณประชาชนชาวสกลนคร ผู้เมตตาคอยให้ข้าวให้น้ำ “น้องนิ่ม”ผู้เขียนและปักป้ายเตือนพร้อมแจ้งนักข่าว เจ้าของ ที่พยายามติดตามหาน้องนิ่ม
ที่มา>>>ข่าวสด

สุนัขวิ่งตัดหน้า ตำรวจภาค 1 หวิดดับ รถหมุนพุ่งชนศาลาริมทาง เสาไฟฟ้าพังยับ

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 16 ก.ย. 59 ร.ต.อ.จตุพล เทสินทโชติ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุรถชนศาลาพักริมทางพังและเสาไฟฟ้าเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ (ขาเข้าเมืองอ่างทอง) หมู่ที่ 4 ต.ป่างิ้ว อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง และเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดอ่างทอง
เมื่อไปถึงพบศาลาพักริมทางล้มพังยับเยิน เสาไฟฟ้าหักพังเสียหาย ใกล้กันพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีแดง หมายเลขทะเบียน ฐส-1918 กรุงเทพฯ จอดอยู่ในสภาพพังยับเยิน บริเวณด้านข้างฝั่งคนขับหักงอยุบเข้าไป ภายในรถมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ ด.ต. ณธรรศ ธัญญกิจ อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ นอกจากนั้น ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบสุนัขเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 ตัว201609160653152-20110111132303จากการสอบถาม ด.ต.ณธรรศ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถไปทำธุระมา ระหว่างจะเดินทางกลับบ้าน เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุได้มีสุนัขวิ่งตัดหน้ารถของตนที่กลางถนน ตนเบรกไม่ทันจึงชนสุนัขก่อนที่รถจะเสียหลักหมุนเคว้งมาชนศาลาพักผู้โดยสารริมทาง และหมุนไปฟาดกับเสาไฟฟ้าข้างทางดังกล่าว โชคดีที่ตนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก มีเพียงแค่แผลถลอกตามร่างกายเท่านั้น
ร.ต.อ. จตุพล กล่าวว่า จากการตรวจสอบและสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบภาคได้กลับจากทำธุระ ระหว่างเดินทางกลับได้มีสุนัขวิ่งมาตัดหน้ารถแล้วเกิดเบรกไม่ทันพุ่งชนสุนัข ก่อนที่รถจะเสียหลักหมุนมาชนศาลาพักและเสาไฟฟ้าดังกล่าว เบื้องต้นได้ประสานทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่เกิดเหตุนั้นหลังจากรถชนเสาไฟฟ้าแล้วส่งผลให้เสาไฟฟ้าหักเอียง สายไฟและสายโทรศัพท์ที่เดินผ่านถนนห้อยลงจนต่ำทำให้รถขนาดใหญ่วิ่งผ่านไม่ได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าต้องคอยดึงสายไฟและสายโทรศัพท์ดังกล่าว เพื่อให้รถวิ่งผ่านได้
ที่มา>>>ข่าวสด