วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ผู้ช่วยพยาบาลก่อเหตุขโมยเด็กทารกแรกเกิดจาก รพ. อ้างตัวเองแท้งกลัวโดนสามีทิ้ง


ผู้ช่วยพยาบาลเข้าให้ปากคำพร้อม ผอ.รพ.น่าน
เมื่อวันที่ 12 พ.ย. พ.ต.อ.วีระชัย บั้งเงิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประยูร ชำนาญคง ผู้กำกับ สภ.เมืองน่าน นำกำลังชุดสืบสวน เร่งติดตามคนร้ายก่อเหตุลักพาเด็กทารกแรกเกิดอายุ 10 วัน หนีออกจากโรงพยาบาลน่าน หลังได้รับแจ้งจาก นายแพทย์พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการ รพ.น่าน โดยเร่งสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นหญิง อายุ 22 ปี เป็นผู้ช่วยพยาบาลในโรงพยาบาลน่าน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล  พบว่าผู้ก่อเหตุได้อุ้มเด็กทารก หลบหนีออกจากประตูหลังของโรงพยาบาลโดยมีรถยนต์มารอรับ
 โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.น่าน และ ชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน เร่งติดตามค้นหา ทั้งที่หอพัก บ้านพัก บ้านญาติและเพื่อนๆ โดยเฉพาะเพื่อนสนิทที่ทำงานอยู่ในแผนกเดียวกัน จนสามารถทราบเบาะแสว่าผู้ก่อเหตุได้พาเด็กทารกมาพักหลบอยู่ที่ร้านเสริมสวย นางญวน (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นร้านของแม่แฟนหนุ่ม ซึ่งคบกันมาประมาณ 1 ปี อยู่ห่างจากโรงพยาบาลน่านเพียง 500 เมตร จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุม พร้อมนำเด็กทารกส่งกลับคืนสู่อ้อมอกครอบครัวอย่างปลอดภัย
 จากการสอบสวนนางญวน ให้การว่า ลูกชายพร้อมด้วยผู้ก่อเหตุ ได้พากันมาที่บ้านซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ทำเป็นร้านเสริมสวย โดยผู้ก่อเหตุบอกว่าคลอดลูกแล้ว ขอมาพักก่อน ซึ่งตนก็เห็นว่าไม่ได้เตรียมของสำหรับเด็กอ่อน จึงได้ให้เงินลูกชายได้ซื้อของใช้จำเป็นมา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุม จึงได้ทราบว่าผู้ก่อเหตุขโมยเด็กทารกออกมาจากโรงพยาบาล ขณะที่ตัวของแฟนหนุ่มก็ยังรู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
 ทางด้าน พ.ต.อ.ประยูร  ชำนาญคง ผู้กำกับ สภ.เมืองน่าน  เปิดเผยหลังสอบปากคำผู้ต้องหา โดยมีเพื่อนสนิทและ นพ.พงษ์เทพ  วงศ์วัชรไพบูลย์ รองผู้อำนวยการ รพ.น่าน ร่วมกันให้ข้อมูล ทำให้ทราบว่า ผู้ต้องหามีประวัติการตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาลน่าน มีกำหนดคลอดวันที่ 20 พ.ย.59 แต่ผู้ต้องหาให้การว่าได้แท้งลูก และกลัวว่าจะถูกฝ่ายชายทอดทิ้ง จึงได้วางแผนทำทีไปขอชั่งน้ำหนักเด็กทารกในแผนกคลอดกับผู้เป็นแม่ จากนั้นจึงได้นำเด็กหนีออกจากโรงพยาบาลโดยหลอกให้แฟนหนุ่มมารอรับ จนกระทั่งถูกติดตามจับกุม
 โดยพนักงานสอบสวนได้บันทึกคำให้การพร้อมตั้งข้อกล่าวหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันควร เพื่อดำเนินคดีทางอาญาตามกฎหมายต่อไป ขณะที่ฝากแจ้งเตือนถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเกิดขึ้นจากความไว้เนื้อเชื่อใจเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นผู้ช่วยพยาบาลที่อ้างถึงการปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตามขอให้พ่อแม่ทุกคนอย่าได้ไว้ใจปล่อยเด็กไปกับคนแปลกหน้าไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามขอให้ติดตามเด็กอย่าให้คลาดสายตา
ที่มา>>>ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น