วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ท้องฟ้าจำลอง จัดดูซูเปอร์มูน ลอยกระทงคืนนี้ เข้มพลุดอกไม้ไฟ

ชวนดูคืนนี้ ปรากฏการณ์ “ซูเปอร์ฟูลมูน” ดวงจันทร์ใหญ่สุดในรอบ68 ปี ท้องฟ้าจำลองพร้อมหน่วยงานดารา ศาสตร์เครือข่ายอีกกว่า 160 แห่งทั่วประเทศ ร่วมจัดกิจกรรม ขณะที่ตร.คุมเข้มลอยกระทง ห้ามจุดพุล โคมลอย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษเชิญชวนใช้วัสดุธรรมชาติ ชี้ขนมปังไม่เหมาะกับแหล่งน้ำนิ่ง กทม.เปิดสวนสาธารณะ 30 แห่ง ให้ประชาชนร่วมลอยกระทง แต่งดประกวดนางนพมาศ กรมเจ้าท่าส่งจนท. ดูแลความปลอดภัยทั้ง 60 โป๊ะ แจ้งปิดเส้นทางน้ำ ห้ามเรือใหญ่วิ่งตั้งแต่สะพานพระราม 7 จนถึงสะพานพระราม 9 ช่วง 4 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เผยมาตรการดูแลความปลอดภัยช่วงวันลอยกระทง ในวันที่ 14 พ.ย.นี้ว่า ได้สั่งการให้รองผบช.น. ลงพื้นที่สั่งการเฝ้าระวังตามจุดสำคัญต่างๆ ซึ่งต้องมีการแจ้งให้ทราบว่าช่วงระหว่างนี้ ห้ามมีการจัดงานลักษณ์มหรสพที่มีการใช้เสียงดัง เช่น จุดพลุ ประทัด รวมทั้งการจุดโคมลอย ขอความร่วมมือไม่ให้จำหน่ายและจุด ส่วนกรณีเด็กแว้นได้สั่งการให้ พล.ต.ต. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รรท. รอง ผบช.น.ดูแลงานจราจร ดูแลกรณีดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
ขณะเดียวกันนายวิจารย์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า จากสถิติการจัดเก็บกระทงในเขตกรุงเทพฯ ในปี 2551-2557 พบว่าสัดส่วนกระทงที่ทำจากโฟมมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมไทยและรักษาสิ่งแวดล้อม คพ. จึงขอเชิญชวนประชาชนลอยกระทงรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนเลือกใช้วัสดุลอยกระทงให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ในพื้นที่ที่มีน้ำนิ่ง ให้ใช้วัสดุใบตอง ในพื้นที่น้ำไหล มีปลา อาจให้ใช้กระทงขนมปังที่เป็นอาหารปลาได้หรือใบตองก็เหมาะสำหรับทุกแหล่งน้ำ เนื่องจากค่อยๆ ย่อยสลายทางธรรมชาติ ไม่ทำให้น้ำเสีย และเราสามารถช่วยลดปริมาณกระทงลงได้ซึ่งถ้าไปด้วยกัน ครอบครัวเดียวกัน ก็ใช้กระทงร่วมกันเพียงอันเดียว ควรหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุจากโฟมและพลาสติก รวมถึงกระทงจากขนมปังหากอยู่ในแหล่งน้ำปิด เช่น สระน้ำในวัด หนองน้ำ หรือแม่น้ำลำคลองที่มีความสกปรกเดิม อยู่แล้ว แม้สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ แต่หากมีปริมาณมากในแหล่งน้ำก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดน้ำเน่าเสียได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันสำนัก สิ่งแวดล้อม (สสล.) กำหนดเปิดสวนสาธารณะ 30 แห่ง เพื่อให้ประชาชนพาครอบครัวเข้าไปลอยกระทง ได้แก่ 1.สวนลุมพินี เขตปทุมวัน 2.สวนจตุจักร เขตจตุจักร 3.สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เขตจตุจักร 4.สวนพระนคร เขตลาดกระบัง 5.สวน 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง 6.สวนสราญรมย์ เขตพระนคร 7.สวนรมณีนาถ เขตพระนคร 8.สวนสันติชัยปราการ เขตพระนคร 9.สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ 10.สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม 11.สวนนวมินทร์ภิรมย์ เขตบึงกุ่ม 12.สวนหนองจอก เขตหนองจอก 13.อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย 14.สวนเบญจกิตติ เขตคลองเตย 15.สวนน้ำบึงกระเทียม เขตมีนบุรี 16.สวนวารีภิรมย์ เขตมีนบุรี 17.สวนราษฎร์ภิรมย์ เขตมีนบุรี 18.สวนเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนม พรรษา (ฝั่งพระนคร) เขตบางคอแหลม 19.สวนสันติภาพ เขตราชเทวี 20.สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน 21.สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง 22.สวน 50 พรรษา มหาจักรีสิรินธร เขตประเวศ 23.สวนวนธรรม เขตประเวศ 24.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา 25.สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด 26.สวนสาธารณะบึงน้ำลาดพร้าว 71 เขตลาดพร้าว 27.สวนสิรินธราพฤกษาพรรณ เขตบางกอก น้อย 28.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เขตบางกอก น้อย 29.สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เขตสาทร และ 30.สวนพระยาภิรมย์ เขตคลองสามวา ส่วนสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และ สวนหลวง ร.9 ไม่เปิดให้ประชาชนไปลอยกระทง
นอกจากนี้ทั้ง 30 สวน จะไม่มีการจัดประกวดนางนพมาศ รวมถึงการแสดงกิจกรรม บันเทิงหรือมหรสพต่างๆ โดยจะจัดให้มีเฉพาะการลอยกระทงตามประเพณีเท่านั้น ทางด้านนายกริชเพชร ชัยช่วย ผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ กรมเจ้าท่า ลงพื้นที่ตรวจสอบโป๊ะเรือต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมการลอยกระทงตามท่าเรือต่างๆ อาทิ ท่าเตียน ท่าพรานนก ท่ายอดพิมาน เป็นต้น
นายกริชเพชรกล่าวว่า กรมเจ้าท่าได้เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวกับการจัดงานในก่อนหน้านี้แล้ว โดยแบ่งพื้นที่ในการดูแลความปลอดภัย รวมถึงการดำเนินการตรวจสอบโป๊ะของท่าเรือต่างๆให้มีความพร้อม โดยจำนวนกว่า 60 ท่าเรือ ที่จะมีการจัดกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ทั้งท่าเรือของกรมเจ้าท่าและของหน่วยงานเอกชน นอกจากนี้ในช่วงเวลา 16.00-24.00 น. ของวันที่ 14 พ.ย. จะมีการปิดการจราจรทางน้ำ ตั้งแต่ช่วงสะพานพระราม 7 จนถึงสะพานพระราม 9 โดยไม่ให้เรือบรรทุกขนาดใหญ่เข้ามาในพื้นที่ เพื่อเปิดพื้นที่การจราจรทางน้ำให้กับเรือขนาดเล็ก ที่จะเข้ามาร่วมงานประเพณีลอยกระทงและโดยสารรับ-ส่งประชาชนเท่านั้น
ด้านพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันลอยกระทงในวันที่ 14 พ.ย.นี้ รัฐบาลประกาศให้ทุกหน่วยงานจัดกิจกรรมได้ตามปกติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ขอให้ประชาชนใช้โอกาสนี้สืบสานประเพณีไทยที่งดงามและสนุกสนานรื่นเริงได้ตามสมควร ควบคู่กับการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะในด้านทรัพยากรน้ำและขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ ช่วยกันปลูกฝังบุตรหลานและนักเรียนให้มีจิต สำนึกที่ดี ไม่คำนึงถึงแต่ความสนุกสนานในช่วงเทศกาลเพียงอย่างเดียว แต่ควรใช้จังหวะเวลานี้เรียนรู้แก่นแท้ของวัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณ และเห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของทรัพยากรน้ำ เพราะน้ำคือชีวิตทุกคนต้องช่วยกันดูแลรักษาคุณภาพน้ำและสิ่งแวดล้อม
เมื่อเวลา 18.30 น. ที่ห้องศปก.สน.วัดพระ ยาไกร พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รรท.รอง ผบช.น. (หน.มค.) พ.ต.อ. รัชพล ชนะศรีขจร ผกก.สน.วัดพระยาไกร เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.วัดพระยาไกร และทหารม.พัน.24 รักษาพระองค์ ร่วมกันเข้าประชุมแผนการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจรช่วงเทศกาลลอยกระทงที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม.
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวมากกว่า 3-5 หมื่นราย จึงต้องเฝ้าระวังรวมทั้งประชาสัมพันธ์เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสน.วัดพระยาไกร มีจุดท่าน้ำรวมทั้งสิ้น 7 จุด โดยจุดหลักคือท่าน้ำเอเชียทีคฯ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยอาสาตำรวจบ้านจะร่วมกันกระจายกำลังช่วยดูแลความเรียบร้อย โดยมีจุดเฝ้าระวัง และคอยอำนวยความสะดวกรวม 6 จุด ชุดเคลื่อนที่เร็วอีก 6 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบกระจายกำลังในพื้นที่รวมทั้งสิ้น 100 กว่านาย ทั้งยังมีจุดสังเกตการณ์มุมสูง รวมทั้งบริเวณทางเข้ามีจุดคัดกรองนักท่องเที่ยวหลัก ขณะเข้ามาในพื้นที่จะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือพาสปอร์ต ตรวจค้นสัมภาระและห้ามนำประทัดเข้ามาในพื้นที่เด็ดขาด อีกทั้งบริเวณโดยรอบมีกล้อง ซีซีทีวีทั้งหมด 188 ตัว มีลานจอดรถรวม 2 จุด คือภายในพื้นที่เอเชียทีคฯ สามารถจอดได้รวม 600 คัน และฝั่งตรงข้ามอีก 800 คัน โดยทางเข้าจะมีกล้องซีซีทีวีจับภาพบันทึกใบหน้าของผู้ขับขี่และป้ายทะเบียนรถ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะใช้เครื่องตรวจกระจกส่องใต้ท้องและเปิดฝากระโปรงท้ายรถทุกคัน ยังมีรถพยาบาลอีก 2 คัน หากประสบเหตุการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคืนวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งเป็นวันลอยกระทง จะมีปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวง ปรากฏในตำแหน่งใกล้โลกมากที่สุดในรอบปีนี้ ที่ระยะห่างประมาณ 356,511 กิโลเมตร และยังเป็นการโคจรเข้าใกล้โลกที่สุดในรอบ 68 ปี
นายศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) อธิบายว่า ในวันที่ 14 พ.ย.นี้ ดวงจันทร์เต็มดวงจะปรากฏในตำแหน่งใกล้โลกมากที่สุดในรอบปีนี้ นับตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 2491 ที่ระยะห่างประมาณ 356,462 กิโลเมตร เราจะสังเกตเห็นดวงจันทร์เต็มดวงมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย นอกจากนี้ ยังมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าขณะอยู่ไกลโลกมากที่สุดประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ และมีความสว่างมากกว่าประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ หรือเรียกว่า “ซูเปอร์ฟูลมูน (Super Full Moon)”
นายศรัณย์กล่าวว่า จะสามารถสังเกตเห็นดวงจันทร์เต็มดวงได้ด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันออก หลังดวงอาทิตย์ตก ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น.เป็นต้นไป วันดังกล่าวยังตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งเป็นวันลอยกระทงของไทยอีกด้วย ผู้สนใจสามารถเฝ้ารอชม และเก็บภาพความสวยงามของดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบ 68 ปีในคืนวันลอยกระทงกันได้ทั่วประเทศ ทั้งนี้ สดร.จะจัดกิจกรรม 3 จุดสังเกตการณ์หลัก ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา พร้อมหน่วยงานดาราศาสตร์เครือข่ายอีกกว่า 160 แห่งทั่วประเทศ เชิญชวนประชาชนร่วมส่องจันทร์ดวงโต และวัตถุท้องฟ้าชัดเต็มตาด้วยกล้องโทรทรรศน์หลายรูปแบบ ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 08-4088-2264
ขณะที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) สำนักงาน กศน. ขอเชิญร่วมกิจกรรมฟรี (ไม่มีค่าใช้จ่าย) ตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น. ทั้งส่วนของการสังเกต การณ์ด้วยตาเปล่า กล้องสองตา กล้องโทร ทรรศน์ ณ บริเวณลานอิฐแดง ด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ และกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ปรากฏการณ์ซูเปอร์มูน (Super Moon) ด้วยการบรรยายถึงการเกิดปรากฏการณ์ ดังกล่าว ผ่านการแสดงทางท้องฟ้าจำลอง จำนวน 2 รอบ รอบละประมาณ 30 นาที (รอบ 19.00 น. และรอบ 19.30 น.) ทั้งนี้ ผู้สนใจเข้ารับฟังการบรรยายในท้องฟ้าจำลอง สามารถติดต่อรับบัตรสำรองการเข้าร่วมฟังการบรรยายครั้งนี้ ที่ด้านหน้าอาคารท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2391-0544 และ 0-2392-1773 และ 08-9501-3085
ที่มา>>>ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น