วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ชาวบ้านสุดทน เจอเด็กชาย6ขวบถูกแม่เลี้ยงใช้สายไฟ-ไม้กวาดตี แจ้งหน่วยงานช่วยเหลือ

วันที่ 7 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังพบเด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 6 ขวบ นั่งขายผลไม้อยู่ที่รถซาเล้งสภาพเก่า บริเวณตลาดนัดหัวถนนคลองสาม หมู่ 7 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยแจ้งว่าเด็กชายคนดังกล่าวถูกพ่อแม่ตี สภาพตามร่างกายพบร่องรอยเขียวช้ำเป็นริ้ว ทั่วลำตัว ที่ใบหูมีรอยเขียวช้ำ รวมถึงที่ศีรษะระบมเขียวช้ำเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบบาดแผลที่ต้นขาขวาเป็นแผลเหวอะ โดยชาวบ้านสุดทนเนื่องจากเห็นว่าพฤติกรรมการตีของพ่อแม่ของเด็กกระทำเกินไป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาบดี คลองห้า ให้เข้าช่วยเหลือตรวจสอบเมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเด็กคนดังกล่าวนั่งขายของอยู่ที่ตลาดดังกล่าว โดยพบว่าที่ตามลำตัวมีร่องรอยเขียวช้ำไปทั่วร่างกาย ส่วนบาดแผลที่ต้นขาขวา เจ้าหน้าที่ได้พาไปทำแผลที่โรงพยาบาลคลองหลวง พร้อมทั้งเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อนำเด็กไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี และศูนย์ประชาบดี กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ เมื่อสอบถามเด็กแจ้งว่าถูกพ่อและแม่เลี้ยงตีด้วยสายไฟ, เบ็ดตกปลา และไม้กวาด
นางสาวภัทรภร อุปริรัตน์ หัวหน้าศูนย์ประชาบดีฯ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับการประสานจากชาวบ้านในพื้นที่คลองสาม ทราบว่าพบเด็กชายวัย 6 ขวบ ถูกทำร้ายจึงได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและทราบว่าเด็กถูกพ่อและแม่เลี้ยงตีจริง พร้อมทั้งได้พูดคุยกับผู้เป็นพ่อและแม่เลี้ยง เบื้องต้นทั้งพ่อและแม่เลี้ยงรับสารภาพว่าตีเด็กจริงด้วยความโมโหเนื่องจากอ้างว่าเด็กมีอาการสมาธิสั้น จะดื้อกว่าเด็กปกติ และเกิดความซุกซน จึงได้ลงมือกระทำรุนแรงไป และเมื่อสอบถามเบื้องต้นทราบว่า พ่อและแม่เด็กแยกทางกันนานแล้ว ก่อนหน้านี้เด็กอยู่กับตาและยายที่จ.นครพนม  ทางด้านพ่อของเด็กก็ได้แยกครอบครัวออกมามีครอบครัวใหม่ และมีลูกด้วยกันกับภรรยาใหม่ 1 คน กระทั่งเมื่อปลายปี 2558 ได้เดินทางกลับไปที่บ้าน จ.นครพนม และไปพบว่าเด็กอยู่ลำพังกับตาและยาย ส่วนแม่ของเด็กก็ไปมีครอบครัวใหม่ ส่วนตาและยายมีฐานะยากจน แจ้งว่าไม่สามารถเลี้ยงดูได้ จึงได้นำลูกมาอยู่ด้วยที่ จ.ปทุมธานี และมาค้าขายผลไม้ที่ตลาดหัวถนนคลองสาม เมื่อเด็กซุกซนจึงเกิดความโมโหและตีบ้างเป็นบางครั้งนางสาวภัทรภรฯ กล่าวต่ออีกว่า แต่ชาวบ้านพบว่าเด็กได้รับบาดเจ็บตามร่างกายที่มีการกระทำรุนแรงเกินไป จึงได้แจ้งศูนย์ฯเพื่อให้ความช่วยเหลือก่อน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาบดีได้พาไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และนำตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลคลองหลวง และจะได้ประสานพ่อและแม่เลี้ยงมาพูดคุยเพื่อสอบถามข้อมูลความเป็นอยู่ที่ชัดเจนอย่างละเอียด พร้อมทั้งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบทางด้านความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ เนื่องจากทางด้านพ่อและแม่เลี้ยงแจ้งว่าพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าภายในซอยคลองหลวง 1 จากนั้นจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ทาง จ.นครพนม เพื่อประสานตาและยาย เพื่อขอตรวจสอบเอกสารใบแจ้งเกิดของเด็ก เนื่องจากพบว่าทางพ่อและแม่เลี้ยงไม่มีเอกสารใดใดของเด็กเลยและเด็กก็ไม่ได้เรียนหนังสือ อย่างไรก็ตามต้องรอผลตรวจจากแพทย์เพื่อดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง จากนั้นจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ที่มา>>>ข่าวสด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น